ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่? สอนจัดงบฉบับมนุษย์เงินเดือน

Meowjot30 ก.ย. 68

ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่? สอนจัดงบฉบับมนุษย์เงินเดือน

พี่มนุษย์ที่อยากมีคอนโดเป็นของตัวเอง มักตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอว่า ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ ถึงจะไหวกับตัวเรา? โดยหลักการที่หลาย ๆ คนใช้ก็คือ เงินผ่อนคอนโดรวมไปถึงหนี้สินอื่น ๆ ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ และระยะก็ยาวนานถึง 10–30 ปี หากเผลอซื้อคอนโดโดยที่ไม่ได้พิจารณาก่อนว่ามีความสามารถในการผ่อนไหวมั้ย อาจทำการเงินของพี่ ๆ สะดุดยาวได้เลย

ถ้าอย่างนั้น มนุษย์เงินเดือนอย่างพี่ควรเริ่มต้นจากตรงไหน? บทความนี้เหมียวจะพาพี่มนุษย์ไปไขคำตอบกันว่า ซื้อคอนโดต้องมีเงินเท่าไหร่ ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ถึงจะไม่เกินตัว พร้อมการจัดการรายจ่ายหลังมีคอนโด ที่จะช่วยให้การเงินของพี่ไม่ลำบากเกินไป แถมยังมีเงินเก็บออมระหว่างผ่อนอีกด้วย

ก่อนซื้อ ก่อนจอง ต้องวางแผน

อันดับแรก พี่มนุษย์ต้องเคลียร์ใจกับตัวเองให้ก่อนว่า ถ้าเทียบกับรายได้ที่มีตอนนี้ เรามีกำลังผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ เพราะมีพี่ ๆ บางคนรีบตัดสินใจซื้อคอนโดจากโปรโมชันหรือราคาห้องที่ดูเข้าถึงได้ แต่พอต้องจ่ายทุกเดือนจริง ๆ ก็ช๊อตมากจนทำให้มีเงินไม่พอใช้ ต้องเอาเงินเก็บมาโปะ หรือบางคนถึงขั้นต้องกู้ยืม จนทำให้เป็นหนี้หลายทาง

ฉะนั้น พี่มนุษย์ต้องศึกษาข้อมูล แล้ววางแผนงบประมาณก่อนซื้อ จะช่วยให้พี่จัดสรรเงินเดือนได้อย่างเป็นระบบ โดยประเมินความสามารถในการผ่อนเพื่อให้ยังมีเงินใช้ชีวิตทุกเดือน มีเงินเก็บสำรองยามฉุกเฉิน และสามารถตั้งเป้าหมายหาเงินได้ชัดเจนขึ้นว่า ซื้อคอนโด ต้องมีเงินเท่าไรถึงจะพอ

ซื้อคอนโด ต้องมีเงินเท่าไหร่?

ซื้อคอนโด ต้องมีเงินเท่าไหร่?

การเตรียมตัวซื้อคอนโด พี่มนุษย์ต้องคำนวณและเตรียมเงินหลัก ๆ อยู่ 3 ส่วน ได้แก่

  1. เงินดาวน์ – เป็นส่วนแรกที่ต้องจ่าย

  2. วงเงินกู้ – คำนวณจากรายได้และดอกเบี้ย ว่าธนาคารจะอนุมัติให้กู้ได้เท่าไหร่

  3. เงินผ่อนรายเดือน – คำนวณจากวงเงินกู้ และความสามารถในการผ่อน

เงินดาวน์ต้องเตรียมเท่าไหร่?

นอกจากวงเงินกู้แล้ว พี่ ๆ ที่จะซื้อคอนโดยังต้องเตรียมเงินดาวน์ (Down Payment) ไว้ด้วย ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 10–20% ของราคารวมคอนโด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร และสัดส่วนวงเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value: LTV) ด้วยนะ โดยยิ่งวางเงินดาวน์มาก ก็จะช่วยลดภาระกู้ และทำให้ค่าผ่อนรายเดือนน้อยลง

ยกตัวอย่าง ถ้าคอนโดราคา 2.5 ล้านบาท เงินดาวน์ขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 250,000 – 500,000 บาท แต่เงินดาวน์ ที่ต้องเตรียมจริง คือ ส่วนต่างระหว่าง ราคารวม – วงเงินกู้ที่ได้จริง ซึ่งอาจมากกว่าขั้นต่ำ

  • เช่น หากธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ 1.8 ล้านบาท

  • เงินดาวน์ที่ต้องจ่ายจริงจะเท่ากับ 2.5 ล้าน - 1.8 ล้าน = 700,000 บาท หรือประมาณ 28% ของราคารวม

วงเงินกู้ซื้อคอนโดเบื้องต้น คิดยังไง?

ธนาคารจะพิจารณาวงเงินจาก อัตราการผ่อนชำระไว้ไม่เกิน 40% ของรายได้ เพื่อหาค่าผ่อนคอนโดสูงสุดที่ควรจ่ายให้ได้ก่อน จากนั้นคูณด้วย 150 ซึ่งเป็น "ค่าประมาณจำนวนงวด" ที่ธนาคารใช้เพื่อการคำนวณคร่าว ๆ โดยสูตรที่ใช้คำนวณ:


(รายได้ของผู้กู้ x 40%) x 150 = วงเงินที่สามารถกู้ได้

ยกตัวอย่างเช่น พี่มนุษย์ A มีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท มีแผนจะซื้อคอนโดราคา 2.5 ล้านบาท จึงต้องคำนวณหาค่าผ่อนคอนโดและวงเงินที่กู้ได้ คือ

  • หาค่าผ่อนสูงสุดที่ควรจ่าย = 30,000 x 40% = 12,000 บาท (แต่อย่าลืมว่า ตัวเลขนี้ไม่เท่ากับค่าผ่อนที่เราจะจ่ายไหวนะ)

  • วงเงินที่สามารถกู้ได้ = 12,000 x 150 = 1,800,000 บาท

ประโยชน์ของการวางแผนที่ดีในระยะยาว

ค่าผ่อนคอนโดต่อเดือน เท่าไหร่เราถึงจะจ่ายไหว?

ค่าผ่อนคอนโดที่เราจะจ่ายไหว รวมถึงหนี้สินอื่น ๆ ที่พี่มนุษย์ต้องจ่ายต่อเดือน ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ โดยหลักการนี้เราเรียกกันว่า สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio: DSR) ซึ่งเป็นแนวทางที่สถาบันการเงินและนักการเงินส่วนใหญ่แนะนำ วิธีคำนวณก็คือ


(เงินเดือน x 40% - หนี้สินที่มี) = ความสามารถในการผ่อนชำระ

ยกตัวอย่างเช่น พี่มนุษย์ B มีรายได้ 30,000 บาท อยากได้คอนโดแห่งหนึ่ง มูลค่า 2 ล้านบาท แต่มีภาระที่ต้องผ่อนค่ารถ 7,500 บาทต่อเดือน

  • ค่าผ่อนคอนโดจริง ๆ ที่สามารถผ่อนได้ = (30,000 x 40%) - 7,500 = 4,500 บาท

ยังไงก็ตาม ถ้าพี่มนุษย์อยากรู้ว่าซื้อคอนโดต้องมีเงินเท่าไร แต่ไม่ถนัดคำนวณค่าคอนโดให้ปวดหัว เหมียวทำตารางเทียบตัวเลขมาให้พี่ ๆ ศึกษามาให้แล้วนะ ดูตามด้านล่างได้เลย

เงินเดือน (บาท)

ค่าผ่อนคอนโดสูงสุด (บาท)
*โดยประมาณ

วงเงินกู้สูงสุด (บาท)
*ยังไม่หักหนี้สิน

15,000

6,000

900,000

20,000

8,000

1,200,000

25,000

10,000

1,500,000

30,000

12,000

1,800,000

35,000

14,000

2,100,000

40,000

16,000

2,400,000

45,000

18,000

2,700,000

50,000

20,000

3,000,000

55,000

22,000

3,300,000

60,000

24,000

3,600,000

65,000

26,000

3,900,000

70,000

28,000

4,200,000

75,000

30,000

4,500,000

80,000

32,000

4,800,000

85,000

34,000

5,100,000

90,000

36,000

5,400,000

95,000

38,000

5,700,000

100,000

40,000

6,000,000

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการคำนวณว่า ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไรได้ เช่น

  • ประวัติการชำระหนี้ (เครดิตบูโร) ถ้าดี ธนาคารจะปล่อยกู้ได้ง่ายขึ้น

  • ระยะเวลาการผ่อน ยิ่งเลือกผ่อนนาน ค่างวดต่อเดือนก็จะยิ่งน้อย แต่ดอกเบี้ยรวมจะสูงขึ้น

  • หนี้สินที่มีอยู่แล้ว เช่น บัตรเครดิต ผ่อนรถ หรือกู้ยืมอื่น ๆ ก็จะลดความสามารถในการผ่อนคอนโดลง

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด พี่ควรเช็กให้ชัดว่าตัวเองไหวจริงแค่ไหน เพื่อป้องกันการผ่อนเกินตัวและทำให้ การผ่อนคอนโด กลายเป็นภาระในอนาคต

5 เคล็ดลับ "การผ่อนคอนโด" ให้ไม่กระทบเงินออม

เคล็ดลับผ่อนคอนโดให้ไม่กระทบเงินออม

เมื่อรู้แล้วว่า ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่ถึงจะไหว ขั้นต่อไปคือ การจัดการไม่ให้ภาระผ่อนคอนโดไปกระทบเงินออม เพราะไม่ได้มีแค่การผ่อนคอนโดอย่างเดียว แต่ยังมีทั้งค่าดาวน์ ค่าส่วนกลาง ค่าซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายประจำในชีวิตประจำวัน หากไม่วางแผนให้ดี อาจทำให้การเงินตึงตัวจนเก็บเงินไม่อยู่ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้พี่ผ่อนคอนโดได้อย่างสบายใจมากขึ้น

1. ประเมินความสามารถในการกู้และผ่อนชำระ

ก่อนจะตัดสินใจซื้อคอนโด ต้องมีเงินเท่าไร พี่ควรเริ่มจากการประเมินความสามารถในการผ่อนชำระด้วยสูตรข้างต้นที่เหมียวแนะนำข้างต้น จะช่วยให้รู้เพดานที่แท้จริงของตนเอง และหลีกเลี่ยงการกู้เกินกำลัง

2. วางแผนระยะเวลากู้

โดยปกติแล้ว ธนาคารจะปล่อยกู้ให้พี่ ๆ ผ่อนคือได้นานสุด 30 - 40 ปี เพราะฉะนั้น ถ้าพี่ยิ่งอายุเยอะเท่าไหร่ ระยะเวลาผ่อนคอนโดก็จะน้อยลง ค่าผ่อนก็จะเพิ่มขึ้น และมีโอกาสที่ผลอนุมัติกู้จะไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะฉะนั้น วางแผนกู้เงินดี ๆ นะ ว่าจะเริ่มกู้ตอนอายุเท่าไหร่

3. เตรียมเงินออมไว้สำหรับเงินดาวน์

โดยทั่วไปการกู้ซื้อคอนโดจะต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10–20% ของราคาห้อง หากมีการเก็บเงินก้อนนี้ล่วงหน้า จะช่วยลดภาระผ่อนคอนโด เดือนละเท่าไร ลงได้มาก และยังทำให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

4. ขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม

หลังผ่อนคอนโดครบ 3 ปี ดอกเบี้ยมักจะหมดโปรฯ และลอยตัวขึ้น พี่สามารถลดดอกเบี้ยได้ 2 วิธี คือ "Retention" ขอปรับดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม หรือ "Refinance" ไปกู้ธนาคารใหม่ที่ถูกกว่า ถ้ามีประวัติผ่อนดี Retention อาจคุ้มกว่าเพราะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ถ้าเจอเรทใหม่ที่ถูกกว่ามาก Refinance ก็ช่วยเซฟเงินได้เยอะ

5. มีเงินสำรองฉุกเฉิน

การผ่อนคอนโดคือ ภาระระยะยาว 10–30 ปี ตลอดช่วงนี้อาจมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น ตกงาน เจ็บป่วย หรือรายได้ลดลง การกันเงินสำรองไว้ 3–6 เท่าของรายจ่ายรายเดือน จะช่วยให้มั่นใจว่าพี่ยังผ่อนคอนโดได้แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ข้อดีของการวางแผนการเงินเมื่อรู้ชัดเจนแล้วว่า ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไร คือ พี่สามารถจัดสรรเงินเก็บให้สอดคล้องกับเป้าหมายอื่น ๆ ระหว่างผ่อนคอนโดไปพร้อมกันได้ เช่น การออมเพื่อเกษียณ การลงทุน หรือการศึกษาของลูก ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินในอนาคตอีกต่อไป

จัดการรายจ่ายหลังซื้อคอนโดให้ไม่ช็อตสิ้นเดือนง่ายๆ ด้วย การจดรายจ่ายกับ "เหมียวจด"

ทำไมการจดรายจ่ายจึงสำคัญ

การผ่อนคอนโดจะไม่หนักเกินไป ถ้าวางแผนรายจ่ายอย่างเป็นระบบ โดยการ "จดรายจ่าย" ช่วยแยกสัดส่วนชัดเจนระหว่างค่าผ่อนคอนโด รายจ่ายประจำวัน และเงินเก็บ อีกทั้งการบันทึกและตรวจเช็กทุกวันยังทำให้รู้สถานะการเงินแบบเรียลไทม์ ป้องกันการใช้เงินเกินตัวหรือรูดบัตรจนเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว

สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นจดรายจ่าย แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เหมียวขอแนะนำ แอปเหมียวจด ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการงบผ่อนคอนโดได้ง่ายขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้หลากหลาย

  • บันทึกรายจ่ายแบบอัตโนมัติจากสลิปโอนเงิน เพิ่มความสะดวกให้การจดง่ายขึ้น

  • แบ่งหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ เช่น ค่าผ่อนคอนโด เงินดาวน์ เงินสำรองฉุกเฉิน เป็นต้น

  • สร้างแท็ก # เพื่อติดตามการใช้จ่ายได้ ช่วยคนที่เพิ่งซื้อคอนโดและต้องการคุมงบได้อย่างดี เช่น #ผ่อนคอนโด #ค่าส่วนกลาง หรือ #ของแต่งห้อง

  • มีกราฟสรุปค่าใช้จ่าย ดูเทียบรายสัปดาห์-รายเดือนได้ง่าย ๆ ปรับงบการเงินได้ดีขึ้น ป้องกันการใช้เงินเกินตัว

สุดท้ายแล้ว การผ่อนคอนโดจะไหวไม่ไหวอยู่ที่วินัยการเงินของพี่เอง แต่ถ้ามีเหมียวจด ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นแบบไม่ต้องคิดเยอะเลย

เริ่มใช้เหมียวจด

ส่องฟีเจอร์เหมียวจด

เรื่องราวที่เหมียวแนะนำ

เคล็ดลับการบริหารเงินแบบง่ายๆ สูตรมนุษย์เงินเดือน

เคล็ดลับการบริหารเงินแบบง่ายๆ สูตรมนุษย์เงินเดือน

การบริหารเงินช่วยให้พี่มนุษย์ใช้จ่ายอย่างมีสติและมีเงินออมทุกเดือน อีกทั้งยังมีเงินลงทุนต่อได้ โดยสามารถนำวิธีบริหารเงินไปใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

Meowjot11 มิ.ย. 68
เงินสะดุด ชีวิตสะเทือน ปัญหาเรื่องเงินในครอบครัวแก้ยังไง?

เงินสะดุด ชีวิตสะเทือน ปัญหาเรื่องเงินในครอบครัวแก้ยังไง?

ปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัว เป็นปัญหาที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์และสุขภาพอย่างหนัก จึงต้องรีบแก้ปัญหาก่อนที่จะบานปลายจนจัดการได้ยาก

Meowjot21 ก.ค. 68
คู่มือการเงินสำหรับเสาหลักของครอบครัว วางแผนอนาคตแบบไม่สะดุด

คู่มือการเงินสำหรับเสาหลักของครอบครัว วางแผนอนาคตแบบไม่สะดุด

เสาหลักของครอบครัวจะผ่านทุกวิกฤติทางการเงินไปได้ด้วยดี ถ้ารู้วิธีวางแผนทางการเงิน และได้กำลังใจสำคัญจากคนในบ้านที่พี่รัก เช่น คู่ชีวิต ลูก และญาติพี่น้องที่ไว้ใจ

Meowjot30 ก.ย. 68
ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่? สอนจัดงบฉบับมนุษย์เงินเดือน | เหมียวจด