4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์ ให้มั่นใจและมั่นคง

Meowjot30 ก.ย. 68

4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์ ให้มั่นใจและมั่นคง

การทำงาน 'ฟรีแลนซ์' ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์พี่มนุษย์ที่รักอิสระในการทำงานสุด ๆ แต่ถ้าอยากเป็นฟรีแลนซ์ ก็ต้องวางแผนการเงินดี ๆ เพราะเราต้องรับมือกับความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา ทั้งรายได้ที่ผันผวน ไม่มีเงินเดือนประจำ ไม่มีโบนัส แถมไม่มีสวัสดิการมาช่วยซัปพอร์ตการดำรงชีวิตให้ดีขึ้นอีกด้วย

แต่จะวางแผนการเงินยังไงให้อยู่รอด บทความนี้เหมียวมี 4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์มาบอก พร้อมตัวช่วยที่ทำให้การวางแผนการเงินได้ผลกว่าเดิม แค่พี่มนุษย์ทำตามวิธีเหล่านี้ให้ได้ เส้นทางฟรีแลนซ์ที่มั่นคงและยั่งยืนของพี่ ๆ ก็อยู่ไม่ใกล้เกินเอื้อมแน่นอน

ทำความเข้าใจ 'งานฟรีแลนซ์' งานอิสระที่คุณเลือกได้ คืออะไร

งานฟรีแลนซ์ (Freelance) คือ งานที่พี่มนุษย์ไม่ได้ขึ้นตรงกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งแบบถาวร โดยรับงานเป็นรายชิ้นหรือเป็นรายโปรเจกต์ตามตกลงกับลูกค้า ไม่จำกัดว่าต้องเข้าออฟฟิศหรือเข้างานตามเวลาทำการ ทำให้ฟรีแลนซ์กลายเป็นอาชีพในฝันของวัยทำงานรุ่นใหม่ที่รักอิสระเสรี เพราะ

  • จัดสรรเวลาทำงานได้ตามสะดวก

  • ทำงานที่ไหนก็ได้ หรือทำงานไปเที่ยวไป ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตเข้าถึง

  • เลือกรับงานได้อย่างอิสระ

  • สร้างรายได้ไม่จำกัด ยิ่งรับงานเยอะ ยิ่งมีรายได้เยอะ

  • เป็นเจ้านายตัวเอง ตัดสินใจเองได้ ไม่ต้องขึ้นกับหัวหน้า

ยกตัวอย่างงานฟรีแลนซ์ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น นักเขียน กราฟิก โปรแกรมเมอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และขายของออนไลน์ เป็นต้น

ตัวอย่างอาชีพฟรีแลนซ์

งานประจำต่างจากงานฟรีแลนซ์ตรงไหน?

เมื่อเอาลักษณะของงานประจำมาเปรียบเทียบกับงานฟรีแลนซ์อย่างละเอียด จะเห็นว่า ทั้งสองงานแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

หัวข้อ

งานประจำ (Full-time)

งานฟรีแลนซ์ (Freelance)

รายได้

คงที่แน่นอน ได้รับทุกเดือน

ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับจำนวนงานที่รับ

สวัสดิการ

มีสิทธิลาหยุดตามกฎหมาย ประกันสุขภาพกลุ่ม และอื่น ๆ

ไม่มีสวัสดิการ ต้องซื้อและวางแผนเองทั้งหมด

เวลาทำงาน

เข้างานตามเวลาตายตัว

เลือกเวลาทำงานได้ยืดหยุ่น

สถานที่ทำงาน

ทำงานที่ออฟฟิศ

ทำงานที่ไหนก็ได้

ความอิสระ

มีข้อจำกัด ทุกอย่างขึ้นตรงกับหัวหน้า

เลือกงาน ดูแลบริหารงานได้อิสระ ไม่ขึ้นตรงกับใคร

สรุปคือ งานประจำมีความมั่นคงแต่มีข้อจำกัดเยอส่วนงานฟรีแลนซ์จะมีความอิสระแต่ความแน่นอนน้อยกว่า ดังนั้น การวางแผนการฟรีแลนซ์จึงสำคัญมาก ๆ เพื่ออุดรอยรั่วจากรายได้ที่ไม่แน่นอน ไม่มีสวัสดิการมารองรับ และค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว

4 เทคนิควางแผนการเงินสำหรับฟรีแลนซ์

เพราะพี่มนุษย์เป็นเจ้านายตัวเองที่ต้องบริหารจัดการสวัสดิการด้วยตัวเอง แถมยังต้องรับมือกับความไม่แน่นอนทางรายได้ที่ขึ้นอยู่กับจำนวนงานที่รับ จึงต้องวางแผนการเงินฟรีแลนซ์ให้รอบคอบ ด้วย 4 เทคนิคง่าย ๆ จากเหมียวนี้เลย บอกเลยว่า พี่ ๆ นำไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้แน่นอน

สร้างรายรับหลายทาง

1. รู้รายรับรายจ่ายตัวเองให้เป๊ะก่อน

เริ่มต้นจากการ จดบันทึกรายรับ–รายจ่ายอย่างละเอียด ทั้งรายได้จากแต่ละโปรเจกต์ และค่าใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน เช่น ค่าที่พัก ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าสมาชิกแอปต่าง ๆ ค่าของใช้จำเป็น ฯลฯ การรู้ว่ารายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ จะช่วยให้พี่ประเมินได้ว่า แต่ละเดือนต้องหารายได้เท่าไหร่ถึงจะพอใช้ และเหลือเก็บ แถมยังช่วยจับตา "จุดรั่ว" ที่ไม่ควรจ่ายเกินอีกด้วย

2. แบ่งรายได้เป็น "กอง ๆ" ช่วยคุมเงินอยู่หมัด

เหมียวแนะนำให้ แบ่งรายได้ออกเป็นกองย่อย ๆ สำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แทนที่จะปล่อยให้เงินไหลมารวมกันในบัญชีเดียวแล้วเผลอใช้ไปเรื่อย ๆ โดยสามารถแยกคร่าว ๆ เป็น:

  • กองใช้จ่ายประจำ (จำเป็น)

  • กองเก็บออม (เงินเย็น / เงินฉุกเฉิน)

  • กองลงทุน (ต่อยอดอนาคต)

  • กองภาษี (กันไว้เลย จะได้ไม่ช็อกทีหลัง)

การแยกแบบนี้ช่วยให้ไม่เผลอเอาเงินเก็บมาใช้ และทำให้รู้ว่าทุกบาทที่หามาไปอยู่ตรงไหนบ้าง

3. มีเงินสำรองฉุกเฉินติดตัวไว้เสมอ

การมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3 – 6 เท่าของรายจ่ายรายเดือนจะเป็นเหมือนเบาะนุ่ม ๆ ให้เราทิ้งตัวได้ในช่วงที่ขาดรายได้ เพราะอย่าลืมว่าอาชีพฟรีแลนซ์อาจมีช่วงที่ "เงียบ" แบบไม่มีงานเข้าเลย หรือเจอเหตุไม่คาดฝัน เช่น ป่วย หรืออุปกรณ์ทำงานเสียจนรับงานไม่ได้ การมีเงินสำรองไว้ก็จะช่วยให้พี่อยู่รอดได้โดยไม่ต้องวิ่งกู้ยืมเงินใครนั่นเอง

4. อย่าลืมภาษี และหาตัวช่วยออมระยะยาว

ฟรีแลนซ์ก็ต้องจ่ายภาษีเหมือนกัน พี่ ๆ ฟรีแลนซ์อย่าลืมวางแผนการเงินเพื่อยื่น/จ่ายภาษีฟรีแลนซ์ เช่น กันเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อจ่ายภาษี และหาตัวช่วยลดหย่อน เช่น RMF / ประกันชีวิต / ประกันสุขภาพ ซึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดภาษี แต่ยังเป็นการออมในระยะยาวเพื่อความมั่นคงด้วย

ทางเลือกรับความคุ้มครองชาวฟรีแลนซ์

ทางเลือกรับความคุ้มครองชาวฟรีแลนซ์

นอกจากการวางแผนการเงินฟรีแลนซ์แล้ว สิ่งที่พี่มนุษย์มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ "ความคุ้มครอง" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ เพราะพี่ไม่มีสวัสดิการจากบริษัทคอยรองรับเหมือนมนุษย์เงินเดือน

เพื่อไม่ให้ชีวิตสะดุดเวลาเจอเรื่องไม่คาดคิด เหมียวเลยอยากแนะนำวิธีสร้างความคุ้มครองง่าย ๆ ที่พี่ควรมีติดตัวไว้ตั้งแต่วันนี้ ช่วยรองรับความเสี่ยงทั้งด้านการเงินและสุขภาพในอนาคตได้แบบอุ่นใจ

1. ประกันสังคม

ประกันสังคมถือเป็นความคุ้มครองขั้นพื้นฐานที่พี่ ๆ ต้องมีตามกฎหมาย สำหรับชาวฟรีแลนซ์นั้น เหมียวมีทางเลือกให้พี่ ๆ ทำประกันสังคม 2 ทางเลือก ได้แก่

มาตรา 39

สำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อน ซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์เดิมเอาไว้ โดยจะต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาทต่อเดือน

มาตรา 40

สำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่ไม่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน โดยมีทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบ 3 ทางเลือกด้วยกัน ก็คือ

ทางเลือกที่ 1

ทางเลือกที่ 2

ทางเลือกที่ 3

จ่ายเงินสมทบเดือนละ 70 บาท ได้รับความคุ้มครอง 3 กรณี
● กรณีเจ็บป่วย
● กรณีทุพพลภาพ
● กรณีเสียชีวิต

จ่ายเงินสมทบเดือนละ 100 บาท ได้รับความคุ้มครอง 4 กรณี
● กรณีเจ็บป่วย
● กรณีทุพพลภาพ
● กรณีเสียชีวิต
● กรณีชราภาพ

จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท ได้รับความคุ้มครอง 5 กรณี
● กรณีเจ็บป่วย
● กรณีทุพพลภาพ
● กรณีเสียชีวิต
● กรณีชราภาพ
● กรณีสงเคราะห์บุตร

2. ประกันสุขภาพ

ประกันที่เน้นคุ้มครองตัวเองเป็นหลัก โดยจะเน้นช่วยค่ารักษาพยาบาลเมื่อมีอาการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดผลกระทบไม่ให้เงินเก็บหายไปกับค่ารักษาแบบไม่ทันตั้งตัว

3. ประกันชีวิต

ส่วนประกันนี้เน้นคุ้มครองคนด้านหลังเป็นหลัก เช่น พ่อแม่ พี่น้อง คู่ชีวิต และญาติพี่น้อง เมื่อพี่มนุษย์เสียชีวิตปุ๊บ บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์ที่พี่ ๆ ระบุไว้ จึงช่วยลดภาระทางการเงินให้กับครอบครัวได้อย่างดี

ความคุ้มครองสำหรับชาวฟรีแลนซ์นั้น สร้างได้ไม่ยากเลย ขอแค่พี่มนุษย์วางแผนการเงินฟรีแลนซ์ให้รอบคอบ ก็สามารถเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเองได้ไม่ยาก ความมั่นคงทางการเงินก็จะอยู่กับพี่อีกนานเลยล่ะ

อิสระแต่ไม่ไร้แผน! วางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์วันนี้ เพื่อชีวิตมั่นคง

บทเรียนให้กับคนที่อยากเริ่มเป็นฟรีแลนซ์

พี่มนุษย์เห็นแล้วยังว่า การวางแผนการเงินฟรีแลนซ์รองรับความเสี่ยงได้เยอะขนาดไหน ต่อให้เดือนนั้นมีรายได้น้อย ก็ยังมีเงินเย็นไว้ใช้จ่าย หรือวันไหนที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เจ็บป่วยไม่สบายก็อุ่นใจ เพราะมีประกันคอยซัปพอร์ตเอาไว้

เพราะฉะนั้น เหมียวขอแนะนำให้ชาวฟรีแลนซ์เริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเริ่มได้เร็ว ยิ่งเก็บเงินได้เยอะ และที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์มือใหม่หรือทำมานานแล้วก็ตาม ต้องมีวินัยในการใช้เงินอยู่เสมอนะ

สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มวางแผนการเงินฟรีแลนซ์ ขอแนะนำตัวช่วยจดบันทึกรายรับรายจ่ายอย่าง แอปเหมียวจด มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้วางแผนการเงินได้แบบยืดหยุ่นขึ้น ยังไงก็คุมงบได้อยู่หมัด จึงเหมาะกับฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอนสุด ๆ

  • จดรายรับ–รายจ่ายได้จากสลิปโอนเงินอัตโนมัติ ไม่ว่าจะจ่ายจากบัญชีไหน

  • มีตัวกรองแยกธนาคาร ดูรายจ่ายแยกแต่ละบัญชีได้ชัดเจน

  • สร้างและจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ ติดตามได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะ ของใช้จำเป็น ค่าบ้าน หรือลงทุน

  • ติดแท็ก # ตามคุมงบได้ไม่ว่าเรื่องเล็กอย่าง #ของเล่นแมว หรือเรื่องใหญ่อย่าง #ต่อเติมบ้าน

  • สรุปรายรับ-รายจ่ายเป็นกราฟ เห็นภาพรวมการเงินแบบเรียลไทม์ ดูเทียบรายสัปดาห์-รายเดือน-รายปีได้ชัด ๆ

เริ่มใช้เหมียวจด

เรื่องราวที่เหมียวแนะนำ

ทริกสอนลูกเรื่องการเงิน เข้าใจง่าย สร้างนิสัยการเงินที่ดี

ทริกสอนลูกเรื่องการเงิน เข้าใจง่าย สร้างนิสัยการเงินที่ดี

การสอนลูกเรื่องการเงินไม่ใช่เรื่องยากและไม่ต้องรอให้น้องโตก่อน โดยนิสัยการออม การจ่ายอย่างฉลาด และการวางแผนใช้เงินเป็นสกิลที่ฝึกได้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลย

Meowjot30 ก.ย. 68
ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ สุขใจ สบายกระเป๋าพร้อมแผนการเงินที่ยั่งยืน

ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ สุขใจ สบายกระเป๋าพร้อมแผนการเงินที่ยั่งยืน

ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ไม่ใช่แค่ใจสงบ แต่ยังช่วยให้จัดการการเงินดีขึ้น ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย เก็บเงินได้ง่าย และวางแผนอนาคตได้มั่นคง

Meowjot30 ก.ย. 68
5 วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ปิดหนี้ไว ไม่เบียดการใช้ชีวิต

5 วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ปิดหนี้ไว ไม่เบียดการใช้ชีวิต

รู้วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วที่สามารถใช้ได้กับคนทุกเจน ทุกอาชีพ เพื่อลดต้นลดดอกและปิดหนี้บ้านได้ก่อนอายุ 50 ปี พร้อมตัวช่วยวางแผนผ่อนบ้านที่ง่ายและสะดวก

Meowjot30 ก.ย. 68
4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์ ให้มั่นใจและมั่นคง | เหมียวจด