4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์ ให้มั่นใจและมั่นคง
การทำงาน 'ฟรีแลนซ์' ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์พี่มนุษย์ที่รักอิสระในการทำงานสุด ๆ แต่ถ้าอยากเป็นฟรีแลนซ์ ก็ต้องวางแผนการเงินดี ๆ เพราะเราต้องรับมือกับความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา ทั้งรายได้ที่ผันผวน ไม่มีเงินเดือนประจำ ไม่มีโบนัส แถมไม่มีสวัสดิการมาช่วยซัปพอร์ตการดำรงชีวิตให้ดีขึ้นอีกด้วย
แต่จะวางแผนการเงินยังไงให้อยู่รอด บทความนี้เหมียวมี 4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์มาบอก พร้อมตัวช่วยที่ทำให้การวางแผนการเงินได้ผลกว่าเดิม แค่พี่มนุษย์ทำตามวิธีเหล่านี้ให้ได้ เส้นทางฟรีแลนซ์ที่มั่นคงและยั่งยืนของพี่ ๆ ก็อยู่ไม่ใกล้เกินเอื้อมแน่นอน
ทำความเข้าใจ 'งานฟรีแลนซ์' งานอิสระที่คุณเลือกได้ คืออะไร
งานฟรีแลนซ์ (Freelance) คือ งานที่พี่มนุษย์ไม่ได้ขึ้นตรงกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งแบบถาวร โดยรับงานเป็นรายชิ้นหรือเป็นรายโปรเจกต์ตามตกลงกับลูกค้า ไม่จำกัดว่าต้องเข้าออฟฟิศหรือเข้างานตามเวลาทำการ ทำให้ฟรีแลนซ์กลายเป็นอาชีพในฝันของวัยทำงานรุ่นใหม่ที่รักอิสระเสรี เพราะ
จัดสรรเวลาทำงานได้ตามสะดวก
ทำงานที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตเข้าถึง
เลือกรับงานได้อย่างอิสระ
สร้างรายได้ไม่จำกัด ยิ่งรับงานเยอะ ยิ่งมีรายได้เยอะ
เป็นเจ้านายตัวเอง ตัดสินใจเองได้ ไม่ต้องขึ้นกับหัวหน้า
ยกตัวอย่างงานฟรีแลนซ์ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น นักเขียน กราฟิก โปรแกรมเมอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และขายของออนไลน์ เป็นต้น
งานประจำต่างจากงานฟรีแลนซ์ตรงไหน?
เมื่อเอาลักษณะของงานประจำมาเปรียบเทียบกับงานฟรีแลนซ์อย่างละเอียด จะเห็นว่า ทั้งสองงานแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
หัวข้อ | งานประจำ (Full-time) | งานฟรีแลนซ์ (Freelance) |
---|---|---|
รายได้ | คงที่แน่นอน ได้รับทุกเดือน | ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับจำนวนงานที่รับ |
สวัสดิการ | มีสิทธิลาหยุดตามกฎหมาย ประกันสุขภาพกลุ่ม และอื่น ๆ | ไม่มีสวัสดิการ ต้องซื้อและวางแผนเองทั้งหมด |
เวลาทำงาน | เข้างานตามเวลาตายตัว | เลือกเวลาทำงานได้ยืดหยุ่น |
สถานที่ทำงาน | ทำงานที่ออฟฟิศ | ทำงานที่ไหนก็ได้ |
ความอิสระ | มีข้อจำกัด ทุกอย่างขึ้นตรงกับหัวหน้า | เลือกงาน ดูแลบริหารงานได้อิสระ ไม่ขึ้นตรงกับใคร |
สรุปคือ งานประจำมีความมั่นคงแต่มีข้อจำกัดเยอะ ส่วนงานฟรีแลนซ์จะมีความอิสระแต่ความแน่นอนน้อยกว่า ดังนั้น การวางแผนการฟรีแลนซ์จึงสำคัญมาก ๆ เพื่ออุดรอยรั่วจากรายได้ที่ไม่แน่นอน ไม่มีสวัสดิการมารองรับ และค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว
4 เทคนิควางแผนการเงินสำหรับฟรีแลนซ์
เพราะพี่มนุษย์เป็นเจ้านายตัวเองที่ต้องบริหารจัดการสวัสดิการด้วยตัวเอง แถมยังต้องรับมือกับความไม่แน่นอนทางรายได้ที่ขึ้นอยู่กับจำนวนงานที่รับ จึงต้องวางแผนการเงินฟรีแลนซ์ให้รอบคอบ ด้วย 4 เทคนิคง่าย ๆ จากเหมียวนี้เลย บอกเลยว่า พี่ ๆ นำไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้แน่นอน
1. รู้รายรับรายจ่ายตัวเองให้เป๊ะก่อน
เริ่มต้นจากการ จดบันทึกรายรับ–รายจ่ายอย่างละเอียด ทั้งรายได้จากแต่ละโปรเจกต์ และค่าใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน เช่น ค่าที่พัก ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าสมาชิกแอปต่าง ๆ ค่าของใช้จำเป็น ฯลฯ การรู้ว่ารายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ จะช่วยให้พี่ประเมินได้ว่า แต่ละเดือนต้องหารายได้เท่าไหร่ถึงจะพอใช้ และเหลือเก็บ แถมยังช่วยจับตา "จุดรั่ว" ที่ไม่ควรจ่ายเกินอีกด้วย
2. แบ่งรายได้เป็น "กอง ๆ" ช่วยคุมเงินอยู่หมัด
เหมียวแนะนำให้ แบ่งรายได้ออกเป็นกองย่อย ๆ สำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แทนที่จะปล่อยให้เงินไหลมารวมกันในบัญชีเดียวแล้วเผลอใช้ไปเรื่อย ๆ โดยสามารถแยกคร่าว ๆ เป็น:
กองใช้จ่ายประจำ (จำเป็น)
กองเก็บออม (เงินเย็น / เงินฉุกเฉิน)
กองลงทุน (ต่อยอดอนาคต)
กองภาษี (กันไว้เลย จะได้ไม่ช็อกทีหลัง)
การแยกแบบนี้ช่วยให้ไม่เผลอเอาเงินเก็บมาใช้ และทำให้รู้ว่าทุกบาทที่หามาไปอยู่ตรงไหนบ้าง
3. มีเงินสำรองฉุกเฉินติดตัวไว้เสมอ
การมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3 – 6 เท่าของรายจ่ายรายเดือนจะเป็นเหมือนเบาะนุ่ม ๆ ให้เราทิ้งตัวได้ในช่วงที่ขาดรายได้ เพราะอย่าลืมว่าอาชีพฟรีแลนซ์อาจมีช่วงที่ "เงียบ" แบบไม่มีงานเข้าเลย หรือเจอเหตุไม่คาดฝัน เช่น ป่วย หรืออุปกรณ์ทำงานเสียจนรับงานไม่ได้ การมีเงินสำรองไว้ก็จะช่วยให้พี่อยู่รอดได้โดยไม่ต้องวิ่งกู้ยืมเงินใครนั่นเอง
4. อย่าลืมภาษี และหาตัวช่วยออมระยะยาว
ฟรีแลนซ์ก็ต้องจ่ายภาษีเหมือนกัน พี่ ๆ ฟรีแลนซ์อย่าลืมวางแผนการเงินเพื่อยื่น/จ่ายภาษี เช่น กันเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อจ่ายภาษี และหาตัวช่วยลดหย่อน เช่น RMF / ประกันชีวิต / ประกันสุขภาพ ซึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดภาษี แต่ยังเป็นการออมในระยะยาวเพื่อความมั่นคงด้วย
ทางเลือกรับความคุ้มครองชาวฟรีแลนซ์
นอกจากการวางแผนการเงินฟรีแลนซ์แล้ว สิ่งที่พี่มนุษย์มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ "ความคุ้มครอง" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ เพราะพี่ไม่มีสวัสดิการจากบริษัทคอยรองรับเหมือนมนุษย์เงินเดือน
เพื่อไม่ให้ชีวิตสะดุดเวลาเจอเรื่องไม่คาดคิด เหมียวเลยอยากแนะนำวิธีสร้างความคุ้มครองง่าย ๆ ที่พี่ควรมีติดตัวไว้ตั้งแต่วันนี้ ช่วยรองรับความเสี่ยงทั้งด้านการเงินและสุขภาพในอนาคตได้แบบอุ่นใจ
1. ประกันสังคม
ประกันสังคมถือเป็นความคุ้มครองขั้นพื้นฐานที่พี่ ๆ ต้องมีตามกฎหมาย สำหรับชาวฟรีแลนซ์นั้น เหมียวมีทางเลือกให้พี่ ๆ ทำประกันสังคม 2 ทางเลือก ได้แก่
มาตรา 39
สำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อน ซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์เดิมเอาไว้ โดยจะต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาทต่อเดือน
มาตรา 40
สำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่ไม่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน โดยมีทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบ 3 ทางเลือกด้วยกัน ก็คือ
ทางเลือกที่ 1 | ทางเลือกที่ 2 | ทางเลือกที่ 3 |
---|---|---|
จ่ายเงินสมทบเดือนละ 70 บาท ได้รับความคุ้มครอง 3 กรณี | จ่ายเงินสมทบเดือนละ 100 บาท ได้รับความคุ้มครอง 4 กรณี | จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท ได้รับความคุ้มครอง 5 กรณี |
2. ประกันสุขภาพ
ประกันที่เน้นคุ้มครองตัวเองเป็นหลัก โดยจะเน้นช่วยค่ารักษาพยาบาลเมื่อมีอาการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดผลกระทบไม่ให้เงินเก็บหายไปกับค่ารักษาแบบไม่ทันตั้งตัว
3. ประกันชีวิต
ส่วนประกันนี้เน้นคุ้มครองคนด้านหลังเป็นหลัก เช่น พ่อแม่ พี่น้อง คู่ชีวิต และญาติพี่น้อง เมื่อพี่มนุษย์เสียชีวิตปุ๊บ บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์ที่พี่ ๆ ระบุไว้ จึงช่วยลดภาระทางการเงินให้กับครอบครัวได้อย่างดี
ความคุ้มครองสำหรับชาวฟรีแลนซ์นั้น สร้างได้ไม่ยากเลย ขอแค่พี่มนุษย์วางแผนการเงินฟรีแลนซ์ให้รอบคอบ ก็สามารถเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเองได้ไม่ยาก ความมั่นคงทางการเงินก็จะอยู่กับพี่อีกนานเลยล่ะ
อิสระแต่ไม่ไร้แผน! วางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์วันนี้ เพื่อชีวิตมั่นคง
พี่มนุษย์เห็นแล้วยังว่า การวางแผนการเงินฟรีแลนซ์รองรับความเสี่ยงได้เยอะขนาดไหน ต่อให้เดือนนั้นมีรายได้น้อย ก็ยังมีเงินเย็นไว้ใช้จ่าย หรือวันไหนที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เจ็บป่วยไม่สบายก็อุ่นใจ เพราะมีประกันคอยซัปพอร์ตเอาไว้
เพราะฉะนั้น เหมียวขอแนะนำให้ชาวฟรีแลนซ์เริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเริ่มได้เร็ว ยิ่งเก็บเงินได้เยอะ และที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์มือใหม่หรือทำมานานแล้วก็ตาม ต้องมีวินัยในการใช้เงินอยู่เสมอนะ
สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มวางแผนการเงินฟรีแลนซ์ ขอแนะนำตัวช่วยจดบันทึกรายรับรายจ่ายอย่าง แอปเหมียวจด มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้วางแผนการเงินได้แบบยืดหยุ่นขึ้น ยังไงก็คุมงบได้อยู่หมัด จึงเหมาะกับฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอนสุด ๆ
จดรายรับ–รายจ่ายได้จากสลิปโอนเงินอัตโนมัติ ไม่ว่าจะจ่ายจากบัญชีไหน
มีตัวกรองแยกธนาคาร ดูรายจ่ายแยกแต่ละบัญชีได้ชัดเจน
สร้างและจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ ติดตามได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะ ของใช้จำเป็น ค่าบ้าน หรือลงทุน
ติดแท็ก # ตามคุมงบได้ไม่ว่าเรื่องเล็กอย่าง #ของเล่นแมว หรือเรื่องใหญ่อย่าง #ต่อเติมบ้าน
สรุปรายรับ-รายจ่ายเป็นกราฟ เห็นภาพรวมการเงินแบบเรียลไทม์ ดูเทียบรายสัปดาห์-รายเดือน-รายปีได้ชัด ๆ
เรื่องราวที่เหมียวแนะนำ

คู่มือยื่นภาษีฉบับฟรีแลนซ์ เข้าใจง่าย ไม่จ่ายเกินจริง
รู้หรือไม่? ฟรีแลนซ์ต้องยื่นภาษีเงินได้เหมือนพนักงานประจำ โดยนอกจากแบบ ภ.ง.ด.90 คนทำฟรีแลนซ์ก็อาจต้องเสียภาษีประเภทอื่นด้วยขี้นอยู่กับรายได้ลักษณะงาน

มีบัตรเครดิตได้กี่ใบ? วิธีจัดการบัตรเครดิตหลายใบแบบมือโปร
สงสัยไหมว่ามีบัตรเครดิตได้กี่ใบ? เรียนรู้วิธีจัดการบัตรเครดิตหลายใบอย่างมืออาชีพ พร้อมข้อดีข้อเสีย และเคล็ดลับใช้ให้คุ้มสุด!

รู้จัก FIRE Movement ปรับความคิด เปลี่ยนชีวิต จุดไฟสู่อิสรภาพการเงิน
FIRE Movement คือ แนวคิดวางแผนการเงินเพื่อเกษียณไว พร้อมแนะนำวิธีเริ่มต้นและตัวช่วยวางแผนทางการเงินง่าย ๆ เพื่ออิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง