เป็นหนี้แล้วจัดการยังไง เริ่มจัดการหนี้ยังไงให้ชีวิตไปต่อได้?

ในปี 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยว่า หนี้ครัวเรือนของคนไทยสูงถึง 91.3% ต่อ GDP ซึ่งนับเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลย แล้วถ้าเราเป็นหนี้ จะจัดการยังไง?

ในบทความนี้ เหมียวขอแชร์วิธีการบริหารจัดการหนี้ง่ายๆ พร้อมเข้าใจวิธีวางแผนจัดการหนี้แบบเข้าใจหัวอกความเป็นมนุษย์มากที่สุด เพื่อให้พี่มนุษย์ที่ยังมีหนี้สินได้ออกจากวงจรที่มีแต่หนี้ได้จริงแบบไม่ต้องโทษตัวเอง และเริ่มใหม่ได้อย่างสบายใจ

เป็นหนี้ต้องใช้! แล้วหนี้สินเกิดจากอะไรล่ะ?

หนังสือ The Psychology of Money กล่าวไว้ว่า “คนบางคนมีเงินเก็บ เพราะโชคช่วย แต่คนบางคนมีหนี้ เพราะเจอความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้”

จากประโยคนี้ เราอาจพอสรุปได้ว่า บางครั้งหนี้สินก็เกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น จู่ ๆ ก็ป่วยและต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือ โดนลดเงินเดือนจากเศรษฐกิจ หรือ บางคนก็จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น จำเป็นต้องกู้เพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือเพื่อลงทุนในธุรกิจของตัวเอง

ในหนังสือ อธิบายถึง “ความเสี่ยง” หรือสถานการณ์เหล่านี้ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทุกคนต้องเจอ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเตรียมตัวรับมือได้ทันที ทำให้บางคนมีแต่หนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เหมียวอยากขอให้พี่ๆ คิดอยู่เสมอว่า การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด ขอแค่ตั้งใจจัดการหนี้ให้ดีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เท่านี้ก็เป็นก้าวแรกสำคัญที่จะช่วยให้พี่ ๆ จัดการหนี้ได้แล้ว

หนี้ดี vs หนี้เสีย เข้าใจความแตกต่าง และเลือกใช้หนี้อย่างฉลาด

เคยได้ยินมั้ยว่า การไม่เป็นหนี้ คือ ลาภอันประเสริฐ

เหมียวบอกเลยว่า คำนี้ไม่เกินจริง เพราะชีวิตที่มีแต่หนี้ นอกจากจะอยู่ไม่สุขและต้องเครียดเรื่องเงินแล้ว บางครั้งการเป็นหนี้ก็ทำให้เราเสียเครดิต แต่เหมียวขอบอกเลยว่า หนี้ไม่ได้แย่ไปหมดทุกก้อน เพราะบางก้อนก็เป็นหนี้ที่ดี เรามาดูกันว่าเป็นยังไง

ประเภทของหนี้	หนี้ดี (Good Debt)	หนี้เสีย (Bad Debt)
ความหมาย	เป็นหนี้ที่ลงทุนเพื่ออนาคต หรือ ช่วยเพิ่มทรัพย์สินในระยะยาวได้	เป็นหนี้เพื่อบริโภคโดยไม่สร้างมูลค่า มีแต่จะเพิ่มภาระดอกเบี้ยและความเครียด
ตัวอย่าง	เช่น กู้ซื้อบ้าน กู้เรียนต่อ กู้เงินเพื่อลงทุนธุรกิจ	เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือ ผ่อนสินค้าโดยไม่จำเป็น
วิธีจัดการ	มีแผนการบริหารจัดการหนี้ที่ชัดเจน เช่น เลือกรีไฟแนนซ์	มักขาดแผนการใช้จ่ายที่ชัดเจน อาจมีการกู้เงินมาจ่ายหนี้ จนทำให้เป็นหนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด

5 วิธีจัดการหนี้ เคลียร์จบ ตัดวงจร

การบริหารจัดการหนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการจ่ายหนี้ให้หมด แต่พี่ๆ มนุษย์ต้องรู้จักใช้หนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดในชีวิตตัวเองด้วย แต่จะเริ่มปลดหนี้ยังไงดี เหมียวมีวิธีจัดการหนี้ง่ายๆ มาฝากกัน

1. รวมข้อมูลหนี้ทั้งหมดที่มี

จะจัดการหนี้ให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ รวมหนี้ทุกก้อนมาอยู่ในที่เดียว แบบนี้ก็จะช่วยให้พี่ๆ เห็นภาพมากขึ้นว่า หนี้แต่ละก้อนเกิดจากอะไร มีดอกเบี้ยที่หนักหนาแค่ไหน และควรจะวางแผนการบริหารจัดการหนี้ก้อนไหนก่อนบ้าง

2. แยกแยะการจัดการหนี้

สิ่งต่อมา คือ แยกแยะประเภทของหนี้และหาวิธีจัดการที่เหมาะสม โดยตามทฤษฎีแล้ว หนี้ที่ควรจัดการก่อน คือ หนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงและหนี้ที่ก่อให้เกิดปัญหา เช่น หนี้ที่ส่งผลเสียกับเครดิตหรือโอกาสทางการเงินในอนาคต

แต่ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น การเลือกจัดการหนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ได้เหมือนกันนะ

Snowball Method vs Avalanche Method ไลฟ์สไตล์ไหน จัดการหนี้ยังไงดี?

สำหรับพคนที่รู้สึกว่าตัวเองมีแต่หนี้ ไม่รู้เคลียร์ยังไง เหมียวขอแนะนำ “Snowball Method” และ “Avalanche Method” เป็นแนวทางในการจัดการหนี้สินให้เหมาะกับการเงินและไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากขึ้น

• Snowball Method คือ การเลือกจ่ายหนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อน เหมือนบอลหิมะลูกเล็ก ๆ โดยวิธีนี้จะช่วยปิดหนี้ได้หลายก้อนในเวลาสั้น ๆ

• Avalanche Method คือ การเลือกจ่ายหนี้ก้อนที่ดอกเบี้ยสูงที่สุด ได้ฟีลจบไวเหมือนหิมะถล่ม วิธีนี้เหมาะกับพี่ๆ ที่มีวินัยทางการเงินสูง มีเงินสำรองสำหรับการบริหารจัดการหนี้ ตลอดจนพี่ๆ ที่ต้องการประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว

เทียบให้เห็นชัดๆ เลย Snowball Method ต่างกับ Avalanche Method ยังไงบ้าง

	Snowball Method	Avalanche Method
ทำยังไง	จ่ายหนี้ก้อนเล็กที่สุดก่อน	จ่ายหนี้ก้อนที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน
ดียังไง	ปิดหนี้เล็กๆ หลายก้อนในระยะเวลาอันสั้น แค่เห็นก็กำลังใจมาเต็ม	เน้นปิดก้อนใหญ่ ลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว แต่อาจใช้เวลานานกว่าจะปิดหนี้แต่ละก้อนได้
เหมาะกับใคร	มีหนี้ก้อนเล็กหลายก้อน อยากปิดหนี้เล็กๆ ก่อนค่อยเคลียร์ก้อนใหญ่ทีเดียว	คนที่มีวินัยทางการเงินสูง หรือ ผู้ที่มีหนี้หลายก้อน แต่ต้องการปิดหนี้ที่เป็นภาระมากที่สุดก่อน แล้วค่อยเคลียร์ก้อนที่เหลือ

3. ลดหนี้อย่างถูกกฎหมาย

หลังจากที่เลือกวิธีจัดการหนี้ที่ใช่สำหรับเราแล้ว เหมียวยังขอแนะนำให้พี่ๆ มองหาวิธีลดหนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่การไปยืมคนอื่นมาปิดหนี้นะ แต่จะเป็นการศึกษาแนวทางการลดหนี้ที่ถูกต้อง

เช่น หากเป็นหนี้บ้าน อย่าลืมปรึกษากับธนาคารเพื่อขอรีไฟแนนซ์ หากยิ่งใครเป็นลูกหนี้ที่ดี ส่งครบตรงเวลา แบบนี้ก็มีโอกาสรีไฟแนนซ์ผ่าน ซึ่งก็จะช่วยลดดอกเบี้ย ค่างวดรายเดือน แถมบางคนยังได้เงินก้อนจากการเปลี่ยนสัญญาหนี้หลังทำรีไฟแนนซ์ด้วย

4. จัดการรายรับ-รายจ่ายให้เหมาะสม

ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการหนี้ วางแผนเก็บเงิน หรือ จะจัดการการเงินมิติไหน ก็ล้วนแล้วแต่มี “รายรับ-รายจ่าย” เป็นพื้นฐานสำคัญ

การทำบัญชีรายรับและรายจ่าย นอกจากจะช่วยให้เห็นว่ารายรับที่มีสอดคล้องกับรายจ่ายมากน้อยแค่ไหนแล้ว การทำรายรับและรายจ่ายเป็นประจำก็ช่วยเห็นว่า เราสามารถประหยัดตรงไหน เพื่อย้ายเงินไปปิดหนี้ได้ได้บ้างด้วย

สำหรับพี่ ๆ ที่ไม่รู้จะเริ่มจดรายรับรายจ่ายยังไง หรือมีเวลาน้อย แค่ทำงานหาเงินก็วุ่นจะแย่อยู่แล้ว ลองโหลด ‘เหมียวจด’ แอปจดรายจ่ายอัตโนมัติมาไว้ติดเครื่องดู โดยไม่ว่าจะจ่ายจากบัญชีธนาคารไหนก็บันทึกได้จากสลิปโอนเงิน จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ (เช่น อาหาร ค่าบ้าน หรือสุขภาพ) และยังมีกราฟสรุปการใช้เงินรายเดือน-รายสัปดาห์ด้วย

แค่พี่เปิดแอป เหมียวก็จดให้ฟรี ๆ ลอง [ส่องฟีเจอร์เหมียว] ดูได้เลย!

5. จัดการหนี้แล้ว อย่าลืมเก็บเงินด้วย

มีแต่หนี้ ไม่ได้แปลว่าจะเก็บเงินไม่ได้นะ แต่ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการหนี้อย่างที่เหมียวบอกเลย

ถ้าพี่ๆ คนไหนยังไม่รู้จะเริ่มยังไง เหมียวแนะนำ พอเงินเดือนออกแล้ว ให้แบ่งเงินที่ต้องเคลียร์หนี้ออกมาก่อน และแบ่งค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต) ออกมาเป็นกองที่ 2 จากนั้นค่อยดูว่า เรามีเงินให้ใช้จริง ๆ เท่าไหร่ โดยเงินก้อนนี้เป็นเงินที่ที่เราสามารถบริหารได้เต็มที่ เช่น เงินก้อนนี้ พี่ ๆ อาจจะเลือกเก็บอาทิตย์ละ 100 หรือแบ่งเก็บเลยเดียว 500 ก็ได้ เพียงจำไว้ว่า แค่เก็บไปเรื่อย ๆ ตามที่ไหว ก็พอแล้ว

เริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้

เหมียวเชื่อว่า พี่มนุษย์ทำได้ ขอแค่เริ่มต้นวางแผนจัดการหนี้ด้วยวิธีที่เหมาะกับตัวเอง ค่อย ๆ สร้างวินัยการใช้จ่าย และไม่กดดันตัวเองจนเกินไป พี่ ๆ ก็จะสามารถเคลียร์หนี้ได้หมดแน่นอน

เริ่มใช้เหมียวจด