Active กับ Passive Income ต่างกันยังไงนะ? สรุปให้แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

Meowjot30 ก.ย. 68

Active กับ Passive Income แบบไหนเหมาะกับคุณ

เหมียวชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินคำว่า Active Income กับ Passive Income กันมาบ้าง สองคำนี้ดูเหมือนจะใกล้ชิดกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในชีวิตเราอยู่เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วมันต่างกันยังไงนะ? แบบไหนเหมาะกับคนทำงานประจำ แบบไหนที่คนชอบลงทุนจะต้องรู้? หรือจริง ๆ แล้วพี่สามารถมีทั้งสองแบบได้พร้อมกันเลย?

วันนี้เหมียวจะพาพี่ ๆ มารู้จักกับ Active Income กับ Passive Income ให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ไม่ปวดหัว พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่าในชีวิตจริงเราจะจัดการรายได้สองแบบนี้ได้ยังไงบ้าง ใครที่อยากวางแผนการเงินหรืออยากเริ่มสร้างรายได้เพิ่ม บอกเลยว่าอ่านบทความนี้แล้วจะเห็นหนทางมากขึ้นแน่นอน!

Active Income คืออะไร? ออกแรงเยอะ แต่เงินเข้าชัวร์ดีจริงไหม

Active Income คืออะไร? ออกแรงเยอะ แต่เงินเข้าชัวร์ดีจริงไหม

Active Income หรือ แอคทีฟอินคัม ก็คือรายได้ที่พี่มนุษย์ต้อง "ลงแรง" เพื่อแลกกับเงินทุกบาทที่เข้ามา ถ้าไม่ลงแรง ก็ไม่มีรายได้เข้ามานะ ซึ่งแรงที่ว่าก็อาจเป็นทั้ง แรงกาย เวลา หรือทักษะเฉพาะตัว ที่พี่มี เช่น ทำงานครบเดือน = ได้เงินเดือน หรือรับงานฟรีแลนซ์ออกแบบ = ได้ค่าจ้างรายชิ้น แบบนี้เรียก Active Income ทั้งหมดเลย

รายได้แบบนี้เกิดขึ้นจากการทำงานโดยตรง เช่น

  • พนักงานบริษัท → ได้ เงินเดือน ประจำ
  • ฟรีแลนซ์กราฟิกดีไซน์ → ได้ ค่าจ้างรายชิ้น
  • พ่อค้าแม่ค้าในตลาด → ได้ รายได้รายวัน จากการขายของ
  • อินฟลูเอนเซอร์ → ได้ ค่าจ้างรีวิว หรือค่าจ้างทำคอนเทนต์
  • พนักงานขาย → ได้ ค่าคอมมิชชัน เมื่อปิดยอดขายได้

ข้อดีของ Active Income คือ ถ้าพี่ทำงานตามที่ตกลงไว้ พี่จะได้เงินแน่นอน เป็นรายได้ที่ "มองเห็นชัด ควบคุมได้" เหมาะกับคนที่ชอบความมั่นคง หรือยังต้องใช้เงินแบบต่อเนื่องทุกเดือน

แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกัน เพราะ Active Income มักจะขึ้นอยู่กับ "เวลา" และ "สุขภาพ" ถ้าวันไหนพี่ป่วย งานหาย หรือโดนเลิกจ้าง ก็จะไม่มีเงินเข้ามาเลยทันที ไม่มีแรง = ไม่มีรายได้

สรุปง่าย ๆ: "ไม่ทำ = ไม่ได้เงิน" คือกฎเหล็กของรายได้แบบ Active Income!

Passive Income คืออะไร? ทำครั้งเดียวเงินเข้าตลอดไปมีจริงหรอ

Passive Income คืออะไร? ทำครั้งเดียวเงินเข้าตลอดไปมีจริงหรอ

Passive Income หรือ พาสซีฟอินคัม คือรายได้ที่พี่ไม่ต้องลงแรงซ้ำ ๆ ทุกวันเหมือน Active Income แต่ยังมีเงินเข้ามาได้เรื่อย ๆ แม้พี่จะนั่งชิลอยู่บ้าน ไปเที่ยว หรือหยุดพักก็ยังได้เงิน บางคนเลยเรียกว่า "รายได้ที่ไม่ต้องทำงานตลอดเวลา"

รายได้แบบ Passive Income มาจากการลงทุนหรือการสร้างอะไรบางอย่างไว้ในช่วงแรก แล้วค่อย ๆ เก็บเกี่ยวผลลัพธ์ เช่น

  • ฝากเงินกินดอกเบี้ย
  • ปล่อยเช่าคอนโด ได้ค่าเช่ารายเดือน
  • ทำคลิป YouTube แล้วได้รายได้จากโฆษณา
  • เขียนหนังสือ/เพลง ขายได้ตลอด
  • ทำ Affiliate Program ได้ค่าคอมฯ จากลิงก์ที่คนกดซื้อ
  • ซื้อหุ้น/กองทุนรวม แล้วรับเงินปันผล

ข้อดีคือ รายได้ไม่ผูกกับเวลาโดยตรง พี่สามารถมี "เงินไหลเข้า" โดยไม่ต้องทำงานทุกวัน
แต่ข้อจำกัดคือ ช่วงแรกต้อง "ลงทุน" ทั้งเวลา แรง หรือเงิน เช่น ทำคลิปก็ต้องตัดต่อก่อน หรือซื้อคอนโดก็ต้องมีเงินลงทุน

สรุปง่าย ๆ: ลงแรง-ลงทุนครั้งแรก แล้วให้เงินทำงานแทนเรา

Active Income และ Passive Income ทางเลือกที่ไปด้วยกันได้

Active Income และ Passive Income ทางเลือกที่ไปด้วยกันได้

บางคนพอได้ยินคำว่า Active Income vs Passive Income ก็แอบสงสัยในใจว่า "ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งรึเปล่า?" แต่ความจริงคือ...ไม่ต้องเลือกก็ได้นะพี่! รายได้สองแบบนี้อยู่ด้วยกันได้สบายมาก แล้วก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้ชีวิตแบบมีทั้งสองทางควบคู่กันอยู่แล้วด้วย

ฝั่ง Active Income ก็เช่นงานที่เราต้องลงแรงถึงจะได้เงิน เช่น เป็นพนักงานออฟฟิศที่ได้เงินเดือนตอนสิ้นเดือน, เป็นช่างตัดผมที่รับลูกค้าทุกวัน หรือเปิดร้านกาแฟแล้วทำเองทุกแก้ว ได้เงินทุกครั้งที่ขายได้

แต่ในขณะเดียวกัน Passive Income ก็เริ่มแทรกเข้ามาได้แบบไม่รู้ตัว เช่น พี่ปล่อยเช่าห้องว่างในคอนโด → มีรายได้เข้าทุกเดือน หรือพี่แปะลิงก์ affiliate ของของที่ใช้จริง → ถ้ามีคนกดซื้อก็ได้ค่าคอมอีกต่างหาก หรือแม้แต่ขายเท็มเพลต Notion ใน Etsy วันดีคืนดีตื่นมาก็มีคนต่างประเทศซื้อไปแบบไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม

ฟังดูดีใช่มั้ยล่ะ มาลองดูตัวอย่างของคนที่ทำจริงกัน:

  • น้อง A ทำงานประจำ 9-5 เป็นหลัก ได้เงินเดือนแน่นอน → หลังเลิกงานใช้เวลาว่างถ่ายคลิปปักตะกร้า แชร์ของใช้ที่ชอบลง TikTok กับ Lemon8 → วันหยุดรับงานรีวิวเล็ก ๆ บ้าง รายได้เสริมก็เริ่มเข้ามาเรื่อย ๆ
  • คุณ B มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ขายเองทุกวัน → ว่าง ๆ ก็ถ่ายคลิปสูตรกาแฟลง TikTok พร้อมแปะลิงก์อุปกรณ์กาแฟ → บางวันยอดปังก็ได้เงินจากปักตะกร้า → แถมยังมีช่อง YouTube แนว ASMR "1 day with Barista" ที่เริ่มมีรายได้จากโฆษณาเบา ๆ เข้ามาอีก

เห็นมั้ยพี่มนุษย์ ว่าจริง ๆ แล้วเราสามารถ "ทำงานหาเงินแบบลงแรง" ควบคู่กับ "ปล่อยให้เงินทำงานแทนเรา" ได้พร้อมกัน ไม่ต้องรอให้พร้อม 100% หรือมีเงินก้อนโต ขอแค่เริ่มจากสิ่งที่พี่มี และค่อย ๆ ขยับขยายไปเรื่อย ๆ

สรุปแบบเหมียว ๆ : ทำงาน = ได้เงิน / แต่ถ้าทำถูกจุด → พักก็ยังได้เงินได้นะ!

อยากเริ่มสร้างรายได้หลายทาง จัดการยังไงให้ปัง

อยากเริ่มสร้างรายได้หลายทาง จัดการยังไงให้ปัง

ก่อนจะเริ่มหารายได้เสริม พี่ต้องมี เป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ก่อน เช่น อยากเก็บเงินก้อน ซื้อบ้าน ใช้หนี้ หรือมีเงินเก็บไว้ยามฉุกเฉิน ลองหาคำตอบให้ได้ว่า เราทำไปเพื่ออะไร? หรือพูดง่าย ๆ คือหา Strong Why ของตัวเองให้เจอ

จากนั้นมาลอง เช็คตัวเองเบา ๆ ว่าพี่มี "เวลา" หรือ "ทักษะ" อะไรที่เอามาต่อยอดได้บ้าง เช่น

  • มีเวลาเยอะ → เริ่มจาก ขายของออนไลน์, รับงานฟรีแลนซ์
  • มีสกิลเฉพาะ → ลองเขียนบล็อก, ถ่ายคลิปแชร์ความรู้ลง TikTok หรือ YouTube Shorts
  • ไม่อยากขายของเอง → แปะลิงก์ Affiliate จาก Shopee, Lazada, Gowabi ก็เป็นทางเลือกดี ๆ ที่เริ่มได้ง่ายเลย

ที่สำคัญคือ วางแผนให้ชัด และ ติดตามเป้าหมายทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ พี่สามารถใช้ตัวช่วยอย่าง แอปเหมียวจด ช่วยบันทึกรายรับรายจ่าย ดูภาพรวมว่าแต่ละทางที่ทำไป คุ้มมั้ย กำไรเท่าไหร่ เพื่อปรับแผนให้ดีขึ้นได้ตลอด

จำไว้เสมอ: รายได้เสริมที่ดี ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตตั้งแต่วันแรก แต่ขอแค่เริ่ม "ถูกจุด" และทำต่อเนื่อง พี่ก็มีโอกาสปังได้แน่นอน!

เคล็ดลับจัดการเงิน: เก็บเงินแยกบัญชี

พี่ที่มีทั้ง Active Income และ Passive Income แล้วยังรู้สึกว่าจัดการการเงินได้ไม่คล่อง ลองเทคนิคเก็บเงินแยกบัญชีดู: แยกบัญชีเก็บ บัญชีใช้ และบัญชีลงทุน เพื่อให้เงินแต่ละส่วนไม่ปะปนกัน กำหนดงบแต่ละเรื่องได้ง่าย แถมยังติดตามรายจ่ายง่ายขึ้นด้วย

แต่ถ้ามีหลายบัญชีจะงงมั้ย? เหมียวขอแนะนำ แอปเหมียวจด แอปจดรายจ่ายอัตโนมัติที่มีฟีเจอร์ตัวกรองธนาคารแยกดูรายจ่ายจากแต่ละบัญชีธนาคารได้ชัดเจน แล้วยังมีกราฟสรุป จะดูรายจ่ายรวมทั้งเดือนหรือแยกเป็นรายสัปดาห์ก็ง่ายและสะดวกสุด ๆ

ส่องฟีเจอร์เหมียวจด

สุดท้ายแล้ว Active Income กับ Passive Income ไม่มีแบบไหนดีกว่ากันแบบตายตัว พี่มนุษย์สามารถออกแบบให้มัน "ทำงานร่วมกัน" ได้ตามจังหวะชีวิตและเป้าหมายที่พี่อยากไปถึง บางช่วงอาจต้องเน้นแรงเพื่อเก็บเงิน บางช่วงอาจเริ่มหาทางให้เงินทำงานแทนเรา เพื่อให้ชีวิตมีอิสระมากขึ้น

และถ้าใครอยากเริ่มจัดการการเงินให้ดีขึ้น แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ลองให้ เหมียวจด มาช่วยจดรายรับ-รายจ่ายดู แค่นี้ก็ถือว่าเป็นสเต็ปแรกของการวางการเงินที่ดีแล้ว

เริ่มใช้เหมียวจด

เรื่องราวที่เหมียวแนะนำ

ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ สุขใจ สบายกระเป๋าพร้อมแผนการเงินที่ยั่งยืน

ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ สุขใจ สบายกระเป๋าพร้อมแผนการเงินที่ยั่งยืน

ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ไม่ใช่แค่ใจสงบ แต่ยังช่วยให้จัดการการเงินดีขึ้น ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย เก็บเงินได้ง่าย และวางแผนอนาคตได้มั่นคง

Meowjot30 ก.ย. 68
Loud Budgeting คืออะไร? ทำความรู้จัก เทรนด์อวดประหยัดมาแรง

Loud Budgeting คืออะไร? ทำความรู้จัก เทรนด์อวดประหยัดมาแรง

มาทำความเข้าใจกระแส Loud Budgeting เทรนด์อวดประหยัดมาแรงที่คนรุ่นใหม่พากันทำตาม กล้าเก็บ กล้าออม แบบดัง ๆ เพื่อเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน

Meowjot30 ก.ย. 68
4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์ ให้มั่นใจและมั่นคง

4 วิธีวางแผนการเงินฉบับฟรีแลนซ์ ให้มั่นใจและมั่นคง

งานฟรีแลนซ์ คือ ทางเลือกการทำงานที่ไม่ขึ้นตรงกับบริษัท และตอบโจทย์คนยังอิสระมาก ๆ แต่ก็มาพร้อมการรายได้ที่ไม่แน่นอน แล้วเป็นฟรีแลนซ์ควรวางแผนการเงินยังไง?

Meowjot30 ก.ย. 68
Active Income กับ Passive Income ต่างกันยังไง? | เหมียวจด