ทริกสอนลูกเรื่องการเงิน เข้าใจง่าย สร้างนิสัยการเงินที่ดี

Meowjot30 ก.ย. 68

ทริกสอนลูกเรื่องการเงิน เข้าใจง่าย สร้างนิสัยการเงินที่ดี

เรื่องเงินฟังดูเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ใช่มั้ยพี่มนุษย์? แต่จริง ๆ แล้ว การสอนลูกเรื่องการเงินตั้งแต่ยังเล็ก คือของขวัญชิ้นใหญ่ที่พ่อแม่จะให้ลูกได้เลยนะ เพราะการเข้าใจเรื่องเงินตั้งแต่เด็กจะช่วยให้เค้ามีพื้นฐานการใช้ชีวิตที่มั่นคง รู้จักคุณค่าของเงิน และตัดสินใจเรื่องการใช้จ่ายได้ดีขึ้นตอนโต

แต่บางทีพี่มนุษย์อาจจะยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มยังไงดี ใช้คำว่าอะไร หรือจะทำให้เป็นเรื่องเข้าใจง่ายได้มั้ย ไม่ต้องห่วงเลย เพราะวันนี้ เหมียว จะพาไปรู้จักวิธี สอนลูกเรื่องเงิน แบบเบา ๆ ที่ทั้งเข้าใจง่าย ใช้ได้จริง และไม่ต้องมีความรู้การเงินระดับเซียนก็เริ่มได้ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากปูพื้นฐานเรื่อง "เด็กออมเงิน" ตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เลยแหละ

เหตุผลที่ควรเริ่มสอนลูกเรื่องเงินตั้งแต่ยังเล็ก

พี่มนุษย์เคยสังเกตมั้ยว่าเด็กสมัยนี้ใช้เงินต่างจากสมัยเรายังไง? ยุคก่อนเราอาจต้องรอเงินค่าขนมหยอดกระปุกวันละสิบบาท แต่เด็กยุคนี้แค่แตะมือถือก็ซื้อของได้แล้ว เพราะแบบนี้หลาย ๆ ครอบครัวเลยเริ่ม สอนลูกเรื่องการเงิน ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้เด็กรู้จักวางแผน คิดก่อนใช้ และไม่หลงไปกับโลกที่ทุกอย่างดู "อยากได้เดี๋ยวนี้"

การปลูกฝังพื้นฐานเรื่องเงินช่วยให้เด็กมีวินัยทางการเงิน เข้าใจว่ากว่าจะได้มาซึ่งเงินต้องแลกกับอะไร และรู้จักคุณค่าของการเก็บออม พฤติกรรมเหล่านี้ถ้าเริ่มตั้งแต่เด็ก จะช่วยให้เค้าโตมาแบบไม่ใช้จ่ายเกินตัว และลดโอกาสเกิดปัญหาหนี้สินในอนาคตได้ด้วยนะ

เจอแบบนี้ทุกบ้าน! 3 ปัญหาที่ทำให้พ่อแม่สอนลูกเรื่องเงินไม่สำเร็จ

3 ปัญหาที่พ่อแม่มักเจอตอนสอนลูกเรื่องเงิน

การ สอนลูกเรื่องการเงิน ฟังดูดี แต่เอาเข้าจริงหลายบ้านก็ต้องถอนหายใจ เพราะเจออุปสรรคคล้าย ๆ กัน เหมียวรวม 3 ปัญหาที่เจอบ่อยที่สุดมาให้พี่มนุษย์ได้ลองเช็กดู ว่าบ้านเรากำลังเจออยู่รึเปล่า?

1. ลูกไม่สนใจเรื่องเงิน เพราะคิดว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่
เด็กหลายคนมองว่า "เรื่องเงิน" มันไกลตัว เหมือนเป็นเรื่องของพ่อแม่ ไม่เกี่ยวกับเค้า เลยทำให้รู้สึกเบื่อ หรือไม่อยากฟังเวลาพ่อแม่พูดเรื่องการใช้จ่ายหรือการออม

2. ลูกใช้เงินทันที ไม่คิดเก็บ
พอได้เงินปุ๊บ ก็หมดปั๊บ แบบไม่ทันได้คิด เช่น ได้ค่าขนมมาก็รีบไปซื้อของเล่น ขนม หรือของจุกจิกทันที ซึ่งเป็นนิสัยที่ถ้าไม่ปรับ อาจติดตัวไปจนโตและกลายเป็นคนใช้เงินไม่เป็น

3. พ่อแม่ไม่มีเวลา หรือขาดความต่อเนื่อง
บางบ้านเริ่มต้นได้ดีเลยนะ สอนลูกด้วยกิจกรรมสนุก ๆ แต่พอเวลาผ่านไปก็หยุด หรือไม่ได้สานต่อ ทำให้ลูกลืม และมองว่าการออมเป็นเรื่องชั่วคราว ไม่น่าสนใจเท่าไหร่

ผลที่ตามมา คือ เด็กอาจเติบโตมาโดยไม่เห็นคุณค่าของเงิน ไม่รู้จักการวางแผน และมีความเสี่ยงจะเผชิญปัญหาเรื่องการเงินในอนาคต เช่น ใช้จ่ายเกินตัว ไม่มีเงินเก็บ หรือเป็นหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย

อยากให้ลูกโตมาแบบรู้จักคิดเรื่องเงินตั้งแต่เด็ก ต้องเริ่มจากการเข้าใจว่า "สอนยังไงให้เค้าสนุกและอยากเรียนรู้" ด้วยนะพี่มนุษย์

3 เทคนิคสอนลูกเรื่องเงินแบบไม่โหด วัยไหนควรคุยเรื่องอะไรดี

การ สอนลูกเรื่องการเงิน ไม่ได้แปลว่าต้องหยิบสมุดบัญชีมานั่งอธิบาย หรือบังคับให้ลูกนั่งเรียนเรื่องภาษีตั้งแต่ประถมนะพี่มนุษย์ จริง ๆ แล้ว การปลูกฝังแนวคิดเรื่อง "เงิน" ให้กับเด็ก ๆ ทำได้ง่ายและสนุกกว่าที่คิด แค่ปรับเทคนิคให้เหมาะกับช่วงวัยของลูก ก็สามารถสร้างนิสัยรักการออม และใช้เงินอย่างมีสติให้กับเค้าได้ตั้งแต่เล็ก ๆ

ลองมาดูกันว่าแต่ละช่วงวัย เหมาะกับวิธีแบบไหน และพี่มนุษย์สามารถใช้เทคนิคอะไรได้บ้าง เพื่อให้ลูกค่อย ๆ เรียนรู้เรื่องเงินแบบธรรมชาติ ไม่ต้องดุ ไม่ต้องฝืนใจเลยด้วย!

สอนให้เด็กรู้จักรอ

1. วัยอนุบาล (3–5 ปี): สร้างภาพจำด้วยนิทานหรือหนังสนุก ๆ

เด็กเล็กจะเข้าใจเรื่องเงินยากถ้าพูดตรง ๆ แต่เค้าจะจดจำได้ดีมากถ้ามี "เรื่องราว" หรือ "ตัวละคร" ที่เค้ารัก ลองใช้นิทานหรือการ์ตูนเกี่ยวกับการออมเงิน เช่น นิทานแมวน้อยเก็บเหรียญซื้อจักรยาน หรือดูการ์ตูนที่มีบทเรียนเรื่องการเก็บออม เด็กจะเริ่มเข้าใจแนวคิดง่าย ๆ เช่น "ของบางอย่างต้องรอก่อนถึงจะได้" หรือ "ของมีค่าต้องแลกมาด้วยความพยายาม"

นอกจากนี้พี่มนุษย์ยังสามารถเล่นบทบาทสมมติเล็ก ๆ กับลูก เช่น เล่นขายของแล้วให้เหรียญปลอมจำลอง เพื่อให้เค้าเข้าใจว่า "เงิน" คือสิ่งที่ใช้แลกของได้ ต้องเลือกให้ดีว่าจะใช้ยังไง

2. วัยประถม (6–12 ปี): ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ให้รู้สึกว่าออมแล้วได้อะไร

วัยนี้เริ่มรู้จักการคิดคำนวณ และเริ่มเข้าใจคำว่า "เป้าหมาย" แล้ว ลองชวนลูกตั้ง เป้าหมายการออม ที่เค้าอยากได้จริง ๆ เช่น เก็บเงินซื้อของเล่น เสื้อฟุตบอล หรือไปเที่ยวกับครอบครัว แล้วพี่มนุษย์อาจช่วยเค้าแบ่งเงินค่าขนมที่ได้แต่ละวันมาออมลงกระปุกอย่างสม่ำเสมอ

เทคนิคสำคัญคือต้องให้ เป้าหมายจับต้องได้ และไม่ไกลเกินไป เช่น "เก็บวันละ 10 บาท 30 วัน จะได้ 300 บาท" พอถึงวันนั้นก็ให้ลูกได้ซื้อของเองเลย จะเป็นประสบการณ์ที่เค้าจำได้ไม่ลืม แถมยังทำให้รู้สึกว่าการออม = ความสำเร็จ ไม่ใช่แค่การ "อดทน"

อย่าลืมเสริมแรงบวกนะ เช่น ชื่นชมเมื่อเขาเก็บเงินได้ตามเป้า หรือให้รางวัลเล็ก ๆ อย่างสติ๊กเกอร์ นอกจากจะสร้างความภูมิใจ ยังทำให้เค้าอยากเก็บเงินครั้งต่อไปอีกด้วย

3. วัยมัธยมต้น (13–18 ปี): ฝึกคิดระยะยาวและรู้จัก "รอ"

วัยรุ่นเริ่มมีเหตุผลมากขึ้น และบางคนเริ่มอยากมีอิสระในการใช้เงิน พี่มนุษย์อาจไม่ต้องสอนแบบเด็ก ๆ แล้ว แต่ใช้การ "คุย" และตั้งคำถามแทน เช่น "ถ้าไม่ซื้อของชิ้นนี้วันนี้ แล้วเอาเงินไปเก็บเพิ่มอีกเดือน จะมีพอซื้อของที่อยากได้กว่านี้มั้ย?" เป็นการสอนแบบ Delayed gratification หรือการรอเพื่อสิ่งที่ดีกว่าในอนาคต

อีกวิธีหนึ่งคือให้ลูกได้ ลองผิดลองถูกด้วยเงินของตัวเอง เช่น ให้ค่าขนมแบบรายสัปดาห์ แล้วปล่อยให้เค้าจัดการเอง ถ้าใช้หมดเร็ว ก็ต้องรอจนกว่าจะถึงวันจ่ายรอบใหม่ วิธีนี้จะทำให้เค้าเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ว่าเงินหมดแล้วมันไม่สนุกเลยนะ

จะรู้ได้ไงว่า สอนลูกเรื่องการเงินแล้วได้ผลมั้ย?

ทำไมหลายๆครอบครัวถึงสอนลูกเรื่องการเงิน

สังเกตง่าย ๆ เลยพี่มนุษย์! ถ้าลูกเริ่มมีพฤติกรรมเหล่านี้ แปลว่าวิธีของพี่กำลังได้ผลแล้วล่ะ:

  • เก็บเงินเองโดยไม่ต้องเตือน

  • เริ่มวางแผนก่อนซื้อของ

  • เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินหรือเป้าหมายของตัวเอง

  • ภูมิใจเวลาเก็บเงินได้ครบ

จำไว้นะพี่มนุษย์ การสอนลูกเรื่องเงินไม่ใช่ภารกิจต้องสำเร็จในวันเดียว แต่เป็นการค่อย ๆ ปลูกจนงอกงาม ถ้าพี่สอนอย่างเข้าใจและสนุก เด็กจะเรียนรู้ได้ดีกว่าเยอะเลยล่ะ

อย่ารีบ อย่าดุ! สอนเงินเด็กยุคใหม่ให้ได้ผลทำยังไง

เด็กสมัยนี้โตมากับหน้าจอและเทคโนโลยี เพราะงั้นการสอนลูกเรื่องการเงินก็ต้องปรับให้ทันยุคด้วยนะพี่มนุษย์! ซึ่งในยุคที่ชีวิตเราผูกอยู่กับสมาร์ทโฟนแบบนี้ เหมียวอยากแนะนำเครื่องมือช่วยจดรายรับ-รายจ่ายอย่าง แอปเหมียวจด ที่บันทึกรายจ่ายให้อัตโนมัติจากสลิปโอนเงิน น้อง ๆ ไม่ต้องเสียเวลาจดเอง

  • อินเทอร์เฟซน่ารัก ใช้งานง่าย บอกลาการจดใส่สมุดหรือโน้ตแบบน่าเบื่อ ๆ ไปได้เลย

  • มีกราฟสรุปให้เด็ก ๆ เห็นภาพรวมว่าใช้เงินกับอะไรบ่อย หรือเก็บได้มากแค่ไหน

  • จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ เช่น ค่าดูแลตัวเอง ค่าอาหาร หรือค่าช้อปปิ้ง แถมสร้างหมวดหมู่ใหม่เองได้ด้วย

  • ติดแท็ก # เพื่อติดตามรายจ่ายได้ละเอียดขึ้น จะ #กินข้าวกับเพื่อน #บอร์ดเกม หรือ #กล่องสุ่ม ก็ตามได้

แค่มีเหมียวจดติดเครื่อง ก็ช่วยสร้างนิสัยการคิดก่อนจ่ายให้น้องได้แล้ว แต่ยังไงเทคโนโลยีเป็นแค่ตัวช่วยนะ พ่อแม่มือใหม่ที่กำลังสอนลูกเรื่องเงิน อย่าลืมที่จะสอนอย่างสม่ำเสมอ ไม่รีบ ไม่ดุ และค่อย ๆ สร้างนิสัยการใช้เงินที่ดีไปกับน้องนะ

เริ่มใช้เหมียวจด

ส่องฟีเจอร์เหมียวจด

เรื่องราวที่เหมียวแนะนำ

แต่งงานใช้เงินเท่าไหร่? วางแผนงบแต่งงานให้ลงตัวในทุกขั้นตอน

แต่งงานใช้เงินเท่าไหร่? วางแผนงบแต่งงานให้ลงตัวในทุกขั้นตอน

แต่งงานใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะพอ? รู้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องจ่าย พร้อมทริกการเซฟเงินและบริหารงบงานแต่งให้ลงตัว ไม่บานปลาย

Meowjot30 ก.ย. 68
เหมียวจด แอปติดเครื่องที่ขาดไม่ได้ ใครใช้ก็บอกว่าคุ้ม

เหมียวจด แอปติดเครื่องที่ขาดไม่ได้ ใครใช้ก็บอกว่าคุ้ม

เริ่มต้นจัดการรายรับรายจ่ายง่าย ๆ ด้วยเหมียวจด แอปติดเครื่องที่ใช้ง่าย ฟรี ไม่มีโฆษณา เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ของพี่มนุษย์

Meowjot30 มิ.ย. 68
วิธีจดรายรับรายจ่าย สำหรับมือใหม่หัดจด

วิธีจดรายรับรายจ่าย สำหรับมือใหม่หัดจด

การจดรายรับรายจ่ายไม่ต้องจำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ แต่ขอแค่ “เริ่ม” แล้ว “ทำต่อ” ก็พอแล้ว มาดูวิธีทำรายรับรายจ่ายสำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น

Meowjot11 มิ.ย. 68
ทริกสอนลูกเรื่องการเงิน เข้าใจง่าย สร้างนิสัยการเงินที่ดี | เหมียวจด