7 สเต็ปสำหรับมือใหม่ วางแผนซื้อบ้านหลังแรก ต้องทำยังไงบ้าง

Meowjot22 ส.ค. 68

วางแผนซื้อบ้านในฝัน

เหมียวเชื่อว่า ความฝันสูงสุดที่พี่มนุษย์หลายคนอยากทำให้เป็นจริง นั่นคือการมีบ้านที่อบอุ่นเป็นของตัวเอง แต่ก่อนจะซื้อบ้านได้นั้น จำเป็นต้องวางแผนซื้อบ้านให้ดีเสียก่อน เพราะต้องรับมือกับภาระหนี้สินระยะยาว หากไม่วางแผนดี ๆ อาจเสี่ยงติดหนี้ก้อนโตได้ง่าย

เพราะฉะนั้น พี่ ๆ จึงต้องรับมือกับภาระหนี้บ้านด้วยความเข้าใจ บทความนี้เหมียวอยากชวนพี่มนุษย์มาวางแผนซื้อบ้านหลังแรกไปด้วยกันว่า จะต้องวางแผนอย่างไร ต้องเก็บเงินยังไงให้ถึงเป้าหมาย และมีสิ่งไหนบ้างที่ต้องระวังให้ดี เพื่อให้บ้านหลังแรกเป็นของพี่ ๆ แบบที่ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป

รู้ก่อนพร้อมก่อน! ทำไมการวางแผนซื้อบ้านหลังแรกถึงสำคัญสุด ๆ

พี่มนุษย์ต้องเข้าใจก่อนว่า การซื้อบ้าน 1 หลังไม่เหมือนกับการซื้อของเล็ก ๆ ทั่วไป อย่างสมมุติว่าพี่ ๆ ซื้อเสื้อผ้ามา 1 ตัว ซื้อมาแล้วรู้สึกไม่ชอบยังสามารถซื้อตัวใหม่ได้ แต่ในขณะที่พี่ ๆ ซื้อบ้านมาแล้วมาพบภายหลังว่าทำเลไม่ดี หรือบ้านชำรุดง่ายเพราะใช้วัสดุเกรดต่ำ จะไม่สามารถซื้อบ้านใหม่ได้ทันทีเหมือนเสื้อผ้า เพราะบ้านเป็นอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีราคาหลักล้านไปจนถึงหลักสิบล้าน แถมยังพ่วงด้วยภาระผ่อนบ้านที่ต้องจ่ายทุกเดือนนานถึง 20 - 30 ปีเลยทีเดียว

นั่นหมายความว่า การตัดสินใจซื้อบ้าน 1 ครั้ง มีผลต่อการใช้ชีวิตของพี่ ๆ ไปอีกครึ่งชีวิต เพราะฉะนั้น การวางแผนซื้อบ้านหลังแรกจึงสำคัญต่อพี่มนุษย์มาก ๆ ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยเกษียณที่มีแผนจะซื้อบ้าน ไม่ใช่แค่เดินดูโครงการแล้วตัดสินใจซื้อเลยทันที แต่ต้องพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย

  • รายได้ต่อเดือนต้องเพียงพอต่อการผ่อนบ้านแต่ละงวดหรือไม่

  • ราคาบ้านที่จะซื้อเกินกำลังทรัพย์ของตัวเองหรือไม่

  • ธนาคารมีโครงการสินเชื่อบ้าน และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือไม่

  • ธนาคารนั้นมีวงเงินสินเชื่อที่สอดคล้องกับราคาบ้านหรือไม่

  • มีค่าใช้จ่ายจิปาถะอะไรบ้างที่ต้องรับมือ

นอกจากนี้ พี่มนุษย์ต้องประเมินราคาบ้านด้วยว่า ในปีนี้ราคาเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าราคาจะต่างจากปีก่อน ๆ ไม่ว่าราคาจะสูงหรือต่ำก็ตาม เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนซื้อบ้านหลังแรกที่ดีขึ้น เหมียวได้รวบรวมข้อมูลมาให้พี่ ๆ แล้ว

รู้ก่อนพร้อมก่อนสำคัญสุด

ประเมินราคาบ้านในปี 2025

สิ่งสำคัญในการซื้อบ้าน ต้องประเมินราคาบ้านตามทำเลให้รอบคอบ เพราะราคาบ้านแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน และในปี 2025 แนวโน้มราคายังมีท่าทีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • บ้านในกรุงเทพฯ เริ่มต้นที่ 3–5 ล้านบาท

  • บ้านในปริมณฑล เริ่มต้นที่ 2–4 ล้านบาท

  • บ้านในต่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 1.2–2.5 ล้านบาท

การรู้ราคาคร่าว ๆ เหล่านี้จะช่วยให้พี่กำหนดเป้าหมายเงินดาวน์และยอดผ่อนต่อเดือนได้ชัดเจนขึ้น และไม่เผลอเลือกบ้านที่เกินกำลังตัวเอง นอกจากนี้ พี่ต้องเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเองด้วย ถ้าจะทำให้เห็นภาพชัด ๆ "การจดรายจ่าย" นี่แหละ ช่วยได้!

เพียงจดรายจ่ายทุกวัน จากนั้นเรียงลำดับรายการตามความจำเป็น ก็จะรู้ว่ารายการไหนควรตัดออกไป จากนั้นใช้ข้อมูลนี้ซ้อมผ่อนบ้าน หักเงินเท่าค่างวดบ้านจริง ๆ แล้วลองใช้จ่ายตามปกติดูว่ารอดมั้ย ถ้าไม่รอดให้ปรับการใช้จ่ายใหม่จนการใช้จ่ายลงตัว ถึงจะเอาข้อมูลนี้ไปวางแผนซื้อบ้าน

ทั้งหมดนี้จะเป็นแนวทางสำคัญในศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบ้านที่จะซื้อ และค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย เมื่อศึกษาข้อมูลจนครบแล้วก็จะช่วยวางแผนซื้อบ้านได้ชัดเจนขึ้น จากนั้นก็คิดกันต่อว่าวางแผนซื้อบ้านยังไงให้เหมาะสมกับพี่ ๆ

X steps แผนซื้อบ้าน

7 สเต็ปวางแผนซื้อบ้านมือใหม่ เตรียมเงินยังไงให้ถึง (เป้าหมาย)

ถ้าพี่มนุษย์ศึกษาข้อมูลทั้งหมดจนเข้าใจ และหาแนวทางในการวางแผนซื้อบ้านหลังแรกได้สำเร็จ เหมียวบอกเลยว่าพี่ ๆ มาถูกทางแล้ว และการซื้อบ้านจะราบรื่นขึ้นไปอีก ถ้าพี่ ๆ ได้รู้ 7 วิธีวางแผนซื้อบ้านยังไงให้ถึงเป้าหมายได้แบบไม่สะดุดกลางทาง มาดูกันดีกว่าว่า มีขั้นตอนวางแผนซื้อบ้านยังไง

1. คำนวณความสามารถในการผ่อน

ก่อนคิดซื้อบ้าน ต้องรู้ก่อนว่าเรามีกำลังผ่อนได้แค่ไหน โดยทั่วไป ธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 40% ของรายได้ เช่น ถ้ารายได้รวมต่อเดือนอยู่ที่ 30,000 บาท ก็ไม่ควรผ่อนเกิน 12,000 บาทต่อเดือน

2. ตั้งงบและเลือกบ้านให้เหมาะกับตัวเอง

รู้งบแล้ว ก็ต้องรู้ใจตัวเอง เลือกบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และที่สำคัญคือต้องไม่เกินกำลัง อย่าเลือกจากความฝันล้วน ๆ ให้ดูความจริงควบคู่ เช่น บ้านมือสอง บ้านในทำเลรอง หรือทาวน์โฮมก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า

3. ศึกษาสินเชื่อบ้านให้ดี

เมื่อได้งบซื้อบ้านที่เหมาะสมแล้ว พี่ ๆ ก็จะเริ่มหาธนาคารที่มีสินเชื่อบ้านที่เหมาะสมที่สุดใช่มั้ยล่ะ เหมียวแนะนำให้เปรียบเทียบโปรดอกเบี้ยและเงื่อนไขของแต่ละธนาคารให้ละเอียด เพราะแค่ดอกเบี้ยต่างกันไม่กี่เปอร์เซ็นต์ อาจส่งผลให้ยอดผ่อนรวมต่างกันเป็นแสนบาทก็ได้

4. ตรวจสอบภาระหนี้สิน

ก่อนวางแผนเก็บเงินนั้น ควรเช็กภาระหนี้สินก่อนว่า มีภาระอื่น ๆ อีกมั้ย เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนโทรศัพท์ หรือค่าผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เพราะการเป็นหนี้มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้าน หากมีหนี้เยอะเกิน 40% ของรายได้ ธนาคารอาจไม่อนุมัติสินเชื่อให้พี่ได้ เพราะงั้นปิดหนี้ที่มีอยู่ให้หมดก่อนนะ

5. วางแผนเก็บเงินดาวน์ให้พอ

การมีเงินดาวน์ที่มากพอช่วยให้พี่ลดภาระหนี้ก้อนใหญ่ลงได้เยอะ แนะนำให้เตรียมเงินดาวน์อย่างน้อย 10–20% ของราคารวม เช่น ถ้าบ้านราคา 2.5 ล้าน ควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 250,000 บาท

6. ออมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายหลังซื้อด้วย

ไม่ใช่แค่เงินดาวน์เท่านั้น ยังมีค่าใช้จ่ายหลังการซื้อบ้านที่ต้องรับมือด้วย อาจต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งสำหรับผ่อนบ้าน เงินส่วนหนึ่งสำหรับค่าตกแต่งบ้าน ค่าซ่อมแซม และเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าประกัน รวมถึงเงินฉุกเฉินที่ควรมีไว้อย่างน้อย 3-6 เท่าของเงินเดือนเอาไว้ด้วย

7. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็มีส่วนช่วยเก็บเงินถึงเป้าได้ไวขึ้น โดยจดรายจ่ายในแต่ละเดือนให้เห็นภาพ แล้วเรียงลำดับรายการและตัดรายการที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้มีเงินเหลือมากขึ้น หากต้องการตัวช่วยอำนวยความสะดวก สามารถใช้แอปจดบันทึกการใช้จ่ายได้ เช่น แอป "เหมียวจด"

ข้อสรุปที่ทุกคนควรรู้ก่อนซื้อบ้านหลังแรก

ข้อสรุปทุกคนที่ควรรู้ก่อนซื้อบ้านหลังแรก

วิธีวางแผนซื้อบ้านตามข้างต้นมีข้อดีที่ช่วยให้พี่มนุษย์ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น ไม่รู้สึกกดดันจนเกินไป และไม่กระทบต่อเงินเก็บอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ถ้าพี่ ๆ ซื้อบ้านโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า อาจทำให้การเงินของตัวเองสะดุดอย่างแรง

  • ภาระหนี้จะหนักขึ้น กระทบต่อสภาพคล่อง ต้องลดคุณภาพชีวิตลง

  • ไม่มีเงินสำรองเผื่อเหตุไม่คาดฝัน เพราะเอาเงินไปลงกับการผ่อนหนี้หมดแล้ว

  • เป็นหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อ เพราะต้องยืมเงินอนาคตไปโปะหนี้บ้าน

  • ไม่มีงบตกแต่งบ้าน ทำให้ยังเข้าอยู่ไม่ได้ เพราะงบหมดกับค่าบ้านหมดแล้ว

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน พี่ควรวางแผนซื้อบ้านให้รอบคอบและมีวินัยในการใช้เงินตามแผนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้การใช้จ่ายหลุดกรอบจนกลายเป็นภาระในระยะยาว

อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญก็คือ "การจดรายจ่าย" ที่ไม่ใช่แค่ช่วยให้พี่เห็นภาพพฤติกรรมการเงินของตัวเองชัดขึ้น แต่ยังใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผน "ซ้อมผ่อนบ้าน" ได้ด้วย ลองหักเงินเดือนเท่าค่างวดผ่อนบ้านจริง แล้วดูว่าชีวิตประจำวันยังไปต่อไหวมั้ย

ระหว่างนี้ พี่สามารถใช้แอป "เหมียวจด" ช่วยบันทึกรายจ่ายแบบอัตโนมัติจากสลิปเงินโอนต่าง ๆ ได้เลย ไม่ต้องมานั่งจดเองให้เหนื่อย รายจ่ายทั้งหมดจะแสดงให้อัตโนมัติ พี่จะได้เห็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนเกินงบผ่อนบ้านบ้าง

ถ้ารายจ่ายยังเยอะไป ก็กลับมานั่งดูใหม่ว่ามีอะไรที่พอตัดออกได้บ้าง เช่น ค่าคาเฟ่รายวัน ค่าฟุ่มเฟือยบางอย่าง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงก่อนก้าวสู่ภาระผ่อนบ้านจริงในอนาคต

ดาวน์โหลด "เหมียวจด" แอปช่วยจดบันทึกรายจ่ายอัตโนมัติ ช่วยให้วางแผนซื้อบ้านหลังแรกได้ดีขึ้น

  • เพิ่มรายการเองได้ หากเป็นการจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต

  • จดซ้ำอัตโนมัติได้ สำหรับรายรับหรือรายจ่ายที่มีทุกเดือน

  • จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าตกแต่งบ้าน ค่าทำสัญญา และค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

  • สร้างแท็ก#ให้การจ่าย ไม่ว่าจะ #ผ่อนบ้าน #ตกแต่งบ้าน หรือ #ฟุ่มเฟือย ก็ติดตามได้

  • มีกราฟสรุปเทียบข้ามเดือน ช่วยวิเคราะห์สัดส่วนการใช้จ่ายของตัวเอง

แค่มีแอปเหมียวจดติดเครื่องไว้ ก็ช่วยให้พี่ ๆ ติดตามค่าใช้จ่ายและวางแผนซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นเยอะ

เริ่มใช้เหมียวจด

เรื่องราวที่เหมียวแนะนำ

รู้เคล็ดลับวางแผนการใช้จ่ายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

รู้เคล็ดลับวางแผนการใช้จ่ายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

การใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนให้ดี เพื่อไม่ให้สุขภาพการเงินมีปัญหา และยังช่วยให้มีเงินเก็บมากขึ้นไปจนถึงวัยเกษียณเลยทีเดียว

Meowjot11 มิ.ย. 68
Shopaholic คืออะไร? ส่องสัญญาณเตือนว่าคุณกําลังเป็นหรือไม่

Shopaholic คืออะไร? ส่องสัญญาณเตือนว่าคุณกําลังเป็นหรือไม่

Shopaholic หรือ โรคเสพติดการซื้อ คือ ปัญหาการใช้เงินที่มีสาเหตุลึกลงไปถึงจิตใจที่ทำให้ใครหลายคนเป็นหนี้เป็นสินมาแล้ว มาดูกันเช็กกันว่า ภาวะนี้มีอาการยังไง

Meowjot28 มิ.ย. 68
4 วิธีการประหยัดเงินแบบไม่ฝืนใจ เก็บเงินอยู่หมัด ไม่มีไหล

4 วิธีการประหยัดเงินแบบไม่ฝืนใจ เก็บเงินอยู่หมัด ไม่มีไหล

เหมียวเชื่อว่า หลายคนเคยลองเก็บเงินแบบหักดิบหรือเก็บทีเดียวเยอะ ๆ มาแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า วิธีประหยัดเงินที่ดีที่สุดคือการออมแบบไม่ฝืนใจที่ทำได้แบบสม่ำเสมอ

Meowjot11 มิ.ย. 68