รู้เคล็ดลับวางแผนการใช้จ่ายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
พี่มนุษย์เจอปัญหาแบบนี้วนลูปมานานแค่ไหนแล้ว? ปัญหาที่ว่า…เงินเดือนออกปุ๊บต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตเอย ค่าผ่อน ค่าโทรศัพท์ และค่าอื่น ๆ อีกมากมายปั๊บ พอมาเช็กเงินในบัญชีอีกทีก็เงินช็อต เหลือเงินในบัญชีไม่ถึงหลักพันแล้ว หากพี่ ๆ ยังปล่อยให้เป็นแบบนี้อยู่ล่ะก็ ระวังจะไม่มีเงินเก็บกันนะ
เพราะเหตุนี้เอง เหมียวจึงอยากชวนพี่ ๆ มาทำความรู้จักกับ “เคล็ดลับวางแผนการใช้จ่าย” เพื่อให้การใช้จ่ายของพี่ ๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกัน
คนทั่วไปใช้จ่ายกันแบบไหน?
อันดับแรก เหมียวจะพาพี่ ๆ ไปถอดรหัสนิสัยการใช้เงินของพี่มนุษย์เพื่อหาต้นเหตุที่ทำให้เงินหายวับแบบไม่รู้ตัวกันก่อน โดยสังเกตได้จากการใช้จ่ายตามไลฟ์สไตล์ที่แม้เวลาผ่านไปตั้งหลายปีแต่กลับไม่มีเงินเหลือเก็บในบัญชีเลย จากที่เหมียวได้สำรวจมาพบว่า พี่มนุษย์หลาย ๆ คนมักมีนิสัยการใช้จ่ายแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น
ใช้เงินก่อนแล้วค่อยคิดทีหลัง
ใช้เงินให้รางวัลตัวเองบ่อยครั้ง จนไม่ทันได้ระวังผลกระทบในระยะยาว
ใช้จ่ายโดยไม่บันทึกรายได้-รายจ่ายเลยว่า แต่ละวันเงินหมดไปกับอะไร
ไม่ได้วางแผนทางการเงิน ไม่ได้กำหนดงบประมาณของค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน
มีความเชื่อว่าใช้จ่ายก่อนแล้วค่อยออม เช่น เดือนนี้เงินเหลือเท่าไหร่ก็ออมเท่านั้น
ใช้จ่ายมากกว่าที่หาเงินมาได้ แล้วรอเงินเดือนใหม่เพื่อจ่ายหนี้บัตรเครดิต
ใช้ชีวิตตามกระแสสังคม อาจทำให้ต้องไล่ซื้อของต่าง ๆ จำนวนมากจนสุขภาพการเงินพัง
เอาเงินไปลงทุนโดยที่ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจที่ถูกต้อง
และนิสัยการใช้จ่ายอื่น ๆ ของพี่มนุษย์ที่ทำให้การเงินมีปัญหา
บางครั้งการใช้จ่ายแต่ละครั้ง อารมณ์ของพี่ ๆ อาจขึ้นมามีอิทธิพลต่อเรามากกว่าเหตุผล มีโอกาสที่จะใช้จ่ายเกินตัวโดยไม่ทันได้ตระหนักถึงความจำเป็น ความคุ้มค่า และเป้าหมายทางการเงินในอนาคตของตัวเอง เพราะฉะนั้น การใช้เงินอย่างมีสติ (Mindful Spending) จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ให้เป็นคนที่ใช้จ่ายอย่างรู้ตัว รู้คุณค่า และรู้ผลลัพธ์ในระยะยาวได้ โดยเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ อย่างการวางแผนการใช้จ่ายของพี่ ๆ ก่อนก็ได้นะ
วางแผนการใช้จ่ายแบบไหนเรียกว่าดี
สิ่งที่พี่มนุษย์จะต้องมีก่อนวางแผนการใช้จ่ายให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ การสร้าง “แนวคิด” ซึ่งจะเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ช่วยปลุกไฟให้พี่ ๆ มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนนิสัยการใช้จ่ายให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ไม่น้อยเลย เหมียวจะขอแนะนำให้พี่ ๆ มีแนวคิดการใช้เงินอย่างมีสติเหล่านี้ซะก่อน
ตั้งเป้าก่อนซื้อสินค้าและบริการ
เพราะบางครั้งพี่ ๆ อาจโดนชักจูงจากโฆษณา ยี่ห้อ และราคาจนเผลอจ่ายเงินให้กับสินค้าหรือบริการที่ไม่จำเป็นในตอนนี้ได้
เก็บเงินซื้อของล่วงหน้า ดีกว่าผ่อนจ่ายแต่เสียดอกเบี้ย
การเก็บเงินล่วงหน้าก็จะช่วยให้มีเงินก้อนเพิ่มขึ้นโดยไม่กระทบกับเงินเก็บก้อนอื่น ๆ แถมยังลดความเสี่ยงจากดอกเบี้ยบัตรเครดิตได้อีกด้วย
ลดการกินข้าวนอกบ้านแล้วทำอาหารกินเอง
รู้หรือไม่ว่า การทำอาหารกินเองที่บ้านช่วยประหยัดค่าอาหารได้ตั้งเยอะเชียวนะ เพราะวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ซื้อมาสามารถจัดสรรปันส่วนไว้ปรุงอาหารได้หลายสัปดาห์ เมื่อเทียบกับการซื้ออาหารกินทุกมื้อ
กำหนดงบประมาณก่อนจ่ายแต่ละสัปดาห์บ้าง
การมีแนวคิดนี้จะเป็นการช่วยพี่ ๆ หักห้ามใจไม่ให้ใช้จ่ายเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือนก็ตาม ทำให้พี่ ๆ มีเงินเหลือเก็บได้ตามเป้าหมาย
บันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกวันอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้มองเห็นภาพของการใช้จ่ายได้ชัดขึ้น อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ได้อีกด้วยว่าพี่ ๆ ใช้เงินไปกับอะไรไปเยอะ และควรลดการใช้จ่ายกับอะไรบ้าง
เมื่อพี่ ๆ ได้รู้จักและนำ 5 แนวคิดเหล่านี้ไปใช้ในการปรับวิธีใช้เงินของตัวเองแล้วนั้น ต่อไปเรามาวางแผนการใช้จ่ายกันต่อเลยดีกว่า ซึ่งวิธีที่เหมียวจะแนะนำพี่ ๆ ผ่านบทความนี้จะเป็นการวางแผนตามพีระมิดการเงินโดยจัดสรรปันส่วนเงินแบบ 50:30:20 ซึ่งมีหลักการในการแบ่งเงินจากรายได้ประจำเดือนง่าย ๆ ก็คือ
50% ของรายได้ทั้งหมด | ค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารในแต่ละวัน และหนี้สินต่าง ๆ |
30% ของรายได้ทั้งหมด | ค่าใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มความสุข เช่น ค่าอาหารพิเศษ ของที่อยากได้ เงินท่องเที่ยว ฯลฯ |
20% ของรายได้ทั้งหมด | เงินเก็บ เงินออม และเงินลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต |
เหมียวเชื่อว่า ถ้าพี่ ๆ เพิ่มความคิดนิสัยคนรวย มีแนวคิดในการใช้จ่ายที่ดีประกอบกับการวางแผนก่อนใช้เงินรายเดือนหรือรายสัปดาห์ สุขภาพทางการเงินก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น ถ้าพี่ ๆ อยากรู้ทริกในการใช้จ่ายล่ะก็ เดี๋ยวเหมียวจะเล่าให้ฟัง
เคล็ด(ไม่)ลับวิธีใช้จ่ายฉบับมนุษย์เงินเดือน
ทริกที่เหมียวจะบอกพี่ ๆ ต่อไปนี้ เป็นวิธีการใช้จ่ายที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง และมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น เหมาะกับพี่มนุษย์ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างยิ่ง โดยทริกนี้จะมีทั้งหมด 3 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่
1. บันทึกรายรับที่คาดว่าจะได้รับต่อเดือน
ขั้นตอนแรกพี่ต้องรู้ก่อนว่า ในเดือนนั้นจะมีรายรับเข้ามากี่บาท โดยจะต้องเขียนออกมาให้มากที่สุดก่อนจะรวมยอดรายรับออกมา เพื่อให้เห็นภาพของแหล่งรายได้และจำนวนเงินทั้งหมด
2. บันทึกรายจ่ายที่คาดว่าจะต้องจ่ายต่อเดือน
นอกจากรายรับแล้ว ขั้นตอนนี้พี่ ๆ ก็ต้องบันทึกรายจ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนด้วยนะ และต้องไม่ลืมรวมยอดให้เรียบร้อย เพื่อให้เห็นว่าพี่ ๆ ใช้จ่ายกับอะไรบ้าง และมีจำนวนเท่าไร
3. ทำแผนใช้เงินให้อยู่รอดถึงสิ้นเดือน
ขั้นตอนสุดท้าย ให้พี่มนุษย์เอายอดรวมของรายได้มาเปรียบเทียบกับของรายจ่าย ผลลัพธ์ที่ออกมานี่แหละ จะเป็นแนวทางให้พี่ ๆ สามารถปรับการใช้จ่ายของตัวเองได้ว่าควรลดอะไร หรือควรเพิ่มการใช้เงินอย่างไรเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น กลายเป็น “แผนใช้เงิน” ที่สามารถมีเงินใช้จนถึงสิ้นเดือนนั่นเอง
ทริกนี้พี่ ๆ สามารถสร้างตารางในโปรแกรม Microsoft Excel หรือใช้แอปพลิเคชันเพื่อบันทึกรายรับ-รายจ่ายได้ตามความสะดวกเลย เช่น แอปเหมียวจดที่สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายจากสลิปเงินในมือถือของพี่ ๆ ได้แบบอัตโนมัติ
เลือกวิธีใช้เงินให้เป็น! ไม่ต้องอด แถมมีเงินเก็บได้ยันหลังเกษียณ
การใช้จ่ายอย่างประหยัดของพี่ ๆ แต่ละคนนั้น ไม่ได้มาจากการใช้สูตรที่ตายตัวเท่านั้น แต่มาจากการปรับสัดส่วนของการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับอายุ อาชีพ และเป้าหมายของพี่ ๆ แต่ละคนต่างหาก เพราะฉะนั้น พี่ ๆ ต้องวางแผนและเลือกวิธีใช้เงินให้เป็นนะ
แล้วจะวิธีไหนที่เหมาะสมกับตัวเราล่ะ? เหมียวมีแนวทางการเลือกวิธีการใช้จ่ายตามอายุและอาชีพมาแนะนำกัน โดยใช้สูตร Fix-Fun-Future มาดูกันว่าของพี่ ๆ แต่ละคนจะเหมาะกับวิธี ใช้สูตรบริหารเงินแบบ ไหนกันบ้าง
1. วัยเริ่มทำงานที่อายุต่ำกว่า 25 ปี หรือ นักศึกษาฝึกงาน
สูตร 60-30-10
Fix 60% ค่าเดินทาง-ที่พัก-มือถือ
Fun 30% กินเที่ยวได้ไม่รู้สึกผิด
Future 10% เริ่มสร้างกองทุนฉุกเฉิน
2. พนักงานเงินเดือน 25-35 ปี
สูตร 50-30-20
ลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายจำเป็น และโฟกัสที่การออมเงินมากขึ้น
3. ฟรีแลนซ์ หรือ เจ้าของร้านที่มีอายุ 25-40 ปี
สูตร 40-30-30
ลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายจำเป็น และเพิ่มสัดส่วนออมเงินให้มากขึ้น เพราะรายรับไม่แน่นอน
สำรองฉุกเฉิน 6 เดือน & ทำประกันสุขภาพ-ประกันชดเชยรายได้แทนสวัสดิการบริษัท
4. ผู้มีครอบครัว 35-50 ปี
สูตร 55-20-25
ลดค่าใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มความสุขให้น้อยลง เพิ่มค่าใช้จ่ายจำเป็นให้มากขึ้น เพราะมีลูกที่ต้องดูแลเข้ามา อาจใช้เงินเพิ่มขึ้น
ทำประกันชีวิตให้คู่สมรส/ลูก ลดความเสี่ยงอนาคต
5. ใกล้เกษียณ 50 + หรือเจ้าของกิจการรุ่นใหญ่
สูตร 70-10-20
ผู้สูงอายุจะใช้เงินเพื่อสร้างความสุขน้อยลง แต่จะมีค่าใช้จ่ายจำเป็นเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ
เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตร และ REITs
ต้องการตัวช่วยดูแลค่าใช้จ่าย ไว้ใจ “เหมียวจด”
การวางแผนการใช้จ่าย หรือรู้วิธีการประหยัดเงิน เป็นเรื่องสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นเครื่องขัดเกลานิสัยการใช้เงินที่ทำให้เกิดหนี้สินล้นตัว โดยสามารถนำวิธีใช้จ่ายอย่างประหยัดไปใช้ให้เหมาะกับอายุและอาชีพของพี่ ๆ ได้ แต่ถ้าจะให้สุขภาพทางการเงินดียิ่งขึ้น ขอแนะนำ ‘เหมียวจด’ ซึ่งเป็นแอปช่วยจดบันทึกรายจ่ายอัตโนมัติจากสลิปธนาคารที่อยู่ในอัลบั้ม
เพิ่มรายการเองได้ หากเป็นการจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต
จดซ้ำอัตโนมัติได้สำหรับรายรับหรือรายจ่ายที่มีทุกเดือน
จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ของใช้จำเป็น หรืออื่น ๆ
สร้าง แท็ก# ให้การจ่าย ติดตามและคุมงบเฉพาะเรื่องได้เต็มที่ ไม่ว่าจะ #บุฟเฟต์, #ชานม หรือ #ของเล่นแมว
มีกราฟสรุปเทียบข้ามเดือน รีวิวการใช้จ่าย และช่วยให้รู้จักนิสัยการใช้เงินของตัวเองมากขึ้น
แค่มีแอปเหมียวจดติดเครื่องไว้ ก็ช่วยให้พี่ ๆ ติดตามค่าใช้จ่ายและ มี แพ็กเกจ เหมียวจดเพื่อ วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นเยอะ
เรื่องราวที่เหมียวแนะนำ

ใช้ชีวิตแบบ PANK คืออะไร? เป็น 'น้าโปร' ที่หลานรักที่สุดดีไหม?
PANK คือ แนวคิดของสาววัย 30+ ยุคใหม่ที่ไม่ต้องมีลูกก็เติมเต็มชีวิตได้ มารู้จักไลฟ์สไตล์ที่ทั้งอิสระและมั่นคงทางการเงินกัน

เงินสะดุด ชีวิตสะเทือน ปัญหาเรื่องเงินในครอบครัวแก้ยังไง?
ปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัว เป็นปัญหาที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์และสุขภาพอย่างหนัก จึงต้องรีบแก้ปัญหาก่อนที่จะบานปลายจนจัดการได้ยาก

บริหารเงินสดให้อยู่หมัด ง่ายกว่าที่คุณคิด!
อย่าให้เงินหายไปกับสายลม เรียนรู้การบริหารเงินสดแบบคนรุ่นใหม่ วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมั่นใจในทุกเดือน